KIN

สมาคมส่งเสริมการนอนหลับระดับชาติ (National Sleep Foundation) แนะนำในแต่ละช่วงวัยมีชั่วโมงการนอนที่เหมาะสม ดังนี้
วัยเด็ก
3 เดือนแรก นอน 14-17 ชั่วโมงต่อวัน
4 เดือน-1 ปี นอน 12-15 ชั่วโมงต่อวัน แบ่งเป็น 4 คาบต่อวัน และเริ่มฝึกนอนตอนกลางคืนให้ยาวนานขึ้น โดยจัดสภาพแวดล้อมการนอนให้มีความมืดและเงียบ และลดจำนวนมื้อการกินนมตอนกลางคืนลง
1-2 ปี นอน 11-14 ชั่วโมงต่อวัน
3-5 ปี นอน 10-13 ชั่วโมงต่อวัน
22 วัยเรียน ควรนอนวันละ 9-11 ชั่วโมงต่อวัน และวัยรุ่น ควรนอนวันละ 8-10 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้เกิดคุณภาพการนอนหลับควรนอนก่อน 22 นาฬิกา เพื่อให้โกรทฮอร์โมนหลั่งเต็มที่อันจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตและช่วยเพิ่มความสูง
ผู้ใหญ่ (18-59 ปี) ควรนอนประมาณ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน และควรนอนไม่เกิน 22 นาฬิกา โกรทฮอร์โมนจะหลั่งออกมาเพื่อซ่อมแซมกล้ามเนื้อและร่างกายที่สึกหรอจากการใช้งานระหว่างวัน

สำหรับผู้สูงวัย (60 ปีขึ้นไป) ควรนอนประมาณ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน และควรนอนก่อน 22 นาฬิกา เพื่อให้โกรทฮอร์โมนหลั่งออกมาซ่อมแซมกล้ามเนื้อ และไม่ควรนอนหลับช่วงกลางวัน เพราะอาจทำให้กลางคืนนอนไม่หลับ หรือหลับยาก แต่ถ้าหากง่วงมากๆ หรือรู้สึกเพลีย สามารถนอนหลับเป็นคาบสั้นๆ ประมาณ 10-20 นาทีได้
การนอนก่อน 4 ทุ่ม จึงเป็นผลดีช่วยให้เกิดการหลับลึกเพื่อให้โกรทฮอร์โมนทำงานอย่างเต็มที่ขณะนอนหลับ

เคล็ดลับการนอนให้ได้คุณภาพ
นอนก่อน 4 ทุ่ม และมีจำนวนชั่วโมงการนอนที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย
จัดสภาพแวดล้อมการนอนให้เหมาะสม เช่น เงียบ ไม่มีแสงรบกวน ปิดเครื่องมือสื่อสารเพื่อไม่ให้มีเสียงรบกวน
ลดการกินน้ำตาล โดยเฉพาะช่วงก่อนนอน เพราะน้ำตาลจะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนอินซูลินออกมามาก ซึ่งฮอร์โมนอินซูลินจะไปยับยั้งการหลั่งโกรทฮอร์โมนของร่างกาย

 

อ้างอิงจาก

ข้อแนะนำการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย การลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง และการนอนหลับ , กองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และ สสส.
ผลสำรวจสภาวะทางสังคม วัฒนธรรม และสุขภาพจิต พ.ศ. 2561 สำนักงานสถิติแห่งชาติ