
KIN Home Care
ดูแลเฝ้าไข้ ถึงที่บ้านและโรงพยาบาล
ราคารายวัน 12 ชั่วโมง ราคา 1,300 บาท
นักบริบาล (NA) สามารถดูแลผู้ป่วยแทนพยาบาลได้หรือไม่?
ในยุคที่เทคโนโลยี และการพัฒนาทางด้านการแพทย์ก้าวข้ามขอบเขต และเปิดโอกาสใหม่ๆ หลายๆ อาชีพด้านการดูแลผู้ป่วยก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ในกระบวนการฟื้นฟูสุขภาพของผู้ป่วย บทบาทของพยาบาลก็เป็นส่วนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แต่ในบางกรณี อาจมีสถานการณ์ที่ปรากฏคำถามว่า "นักบริบาล (NA) สามารถดูแลผู้ป่วยแทนพยาบาลได้หรือไม่?" เพื่อแก้ไขความสับสนเรื่องนี้ เชิญติดตามบทความนี้ไปด้วยกัน เพื่อให้คุณเข้าใจว่าบทบาทของนักบริบาล และพยาบาลก็สำคัญไม่แพ้กัน
เริ่มแรกกันเลยว่า นักบริบาล (NA) คือใคร และบทบาทของพวกเขาคืออะไร? ในคำจำกัดความอาจพอจะคล้ายกับนักบริการด้านการดูแลผู้ป่วย ซึ่งมักจะมีการให้ความช่วยเหลือทั้งในด้านการดูแลภายใน และภายนอก ซึ่งแตกต่างจากพยาบาลที่ได้รับการศึกษาแบบสมบูรณ์ ดังนั้นนักบริบาล (NA) จึงมีความชำนาญในบางส่วน และทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยในหลายๆ ด้าน เช่น ด้านการล้างแผล การดูแลร่างกายของผู้ป่วย หรือการสอนการดูแลด้วยตนเอง
นักบริบาล (NA) คือบุคคลที่ได้รับการฝึกอบรม และมีความรู้ทางทฤษฎี และปฏิบัติเพื่อดูแลผู้ป่วยในที่นั่งของพยาบาล พวกเขาสามารถช่วยเหลือพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยโดยตรง อาทิเช่น ช่วยในการตรวจสอบค่าความดันโลหิต ตรวจสอบอุณหภูมิร่างกาย ช่วยเตรียมอุปกรณ์ทางการแพทย์ และช่วยในการทำสิ่งที่พยาบาลต้องการทำ
นักบริบาล (NA) มีบทบาทสำคัญในการเฝ้าระวังสภาพผู้ป่วยโดยตรง โดยใช้ทักษะทางกายภาพและทักษะสื่อสารเพื่อรายงานถึงสภาพผู้ป่วยให้แก่พยาบาล หรือแพทย์อาสา ซึ่งทำให้แพทย์หรือพยาบาลสามารถตรวจสอบสถานะผู้ป่วย และประเมินอาการได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ นักบริบาล (NA) ยังมีบทบาทในการสนับสนุน และให้คำปรึกษาต่อผู้ป่วย และครอบครัว โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิการรักษาพยาบาล และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตนเองหลังจากที่ผู้ป่วยจากโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลกลับบ้าน
การทำงานของนักบริบาล (NA) ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถส่งเสริมคุณภาพการดูแลผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น โดยทำงานร่วมกับทีมของพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วย
ในสรุป นักบริบาล (NA) มีบทบาทเป็นมืออาชีพที่สำคัญในการดูแลผู้ป่วยและสนับสนุนทีมการแพทย์ที่ปฏิบัติงานในสถานพยาบาล พวกเขามีความรู้ และทักษะที่จำเป็นในการดำเนินการเพื่อส่งเสริมสุขภาพของผู้ป่วย
อย่างไรก็ตาม คำถามว่า "นักบริบาล (NA) สามารถดูแลผู้ป่วยแทนพยาบาลได้หรือไม่?" นั้นก็เกิดขึ้นจากความสับสนของบางคนที่อาจไม่รู้ หรือไม่เข้าใจในบทบาทของนักบริบาลในแต่ละประเทศ ในบางประเทศ นักบริบาล (NA) อาจมีการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มความรู้ และทักษะเฉพาะทางในการดูแลผู้ป่วย และสามารถดำเนินงานในบางส่วนแทนพยาบาลอาวุโสสำหรับบางกลุ่มผู้ป่วย ความรับผิดชอบ และความชำนาญในการดูแลผู้ป่วยเป็นหลัก หาก NA ได้รับการฝึกอบรมเพียงพอและผ่านการรับรอง และได้รับการควบคุม และตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ แล้วคำตอบก็คือ "ใช่ นักบริบาล (NA) สามารถดูแลผู้ป่วยแทนพยาบาลได้" และเชื่อมั่นได้ว่าการใช้ NA นั้นเป็นดีต่อการตอบสนองของผู้ป่วย และส่งผลเชิงบวกต่อทีมงานทางการแพทย์
ผู้สูงอายุเป็นวัยที่ต้องได้รับการดูแลที่ดีไม่แพ้กับเด็ก ๆ เพราะผู้สูงอายุมีร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรง และไม่สามารถเดินเหินได้เหมือนปกติ หลายบ้านจึงเลือกใช้บริการคนดูแลผู้สูงอายุ มาช่วยดูแลโดยเฉพาะเพราะบางคนต้องออกไปทำงาน หรือไม่ได้อยู่บ้านกับผู้สูงอายุตลอดเวลา จึงต้องหาคนมาดูแลเป็นพิเศษ แต่ทราบหรือไม่ว่า คนดูแลผู้สูงอายุนั้นมีหน้าที่อะไรบ้าง และทำไมถึงควรจ้าง ไปดูสาเหตุกัน
หน้าที่ของคนดูแลผู้สูงอายุที่ควรรู้
- ดูแลเรื่องสุขอนามัย เช่น การเปลี่ยนแพมเพิส ฯลฯ เพราะผู้สูงอายุบางท่านต้องใส่แพมเพิสไว้ตลอดเวลา และไม่สามารถเดินไปเข้าห้องน้ำเองได้ ผู้ดูแลจึงช่วยเปลี่ยนแพมเพิสตามเวลา และทำความสะอาดให้
- อาบน้ำ หรือเช็ดตัว คนดูแลผู้สูงอายุจะทำหน้าที่อาบน้ำ หรือเช็ดตัวให้เพราะสำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุมากแล้ว การปล่อยให้เข้าไปอาบน้ำเองคนเดียวเป็นสิ่งที่ค่อนข้างอันตราย เพราะอาจทำให้ลื่นล้ม หรือได้รับบาดเจ็บได้ จึงควรมีคนเช็ดตัว หรืออาบน้ำให้ เพราะจะสะอาด และสะดวกกับท่านมากกว่า
- ป้อนข้าวสำหรับผู้สูงอายุที่ทานอาหารเองไม่สะดวก ผู้ดูแลจะทำหน้าที่ป้อนอาหารให้
- เป็นเพื่อนคุยนอกจากการดูแลต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นเพื่อนคุยให้กับท่านได้ด้วย ช่วยให้ท่านไม่เหงาและมีเพื่อนคุยตลอดวัน
ทำไมถึงควรจ้างคนดูแลผู้สูงอายุ
การดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และไม่ใช่แค่การดูแลเรื่องข้าวปลาอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูแลเอาใจใส่ในทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขอนามัย เรื่องความสะอาด และการส่งเสริมสุขภาพจิต เพื่อให้ท่านรู้สึกมีความสุข และอยู่ในความปลอดภัย การแบ่งเบาภาระด้วยการหาคนดูแลผู้สูงอายุมาช่วยดูแล จึงทำให้เรารู้สึกสะดวกสบายมากขึ้น เพราะไม่ต้องคอยกังวลว่าผู้สูงอายุที่บ้านจะเป็นอย่างไร กินข้าวรึยัง หรือได้รับอันตรายหรือไม่ จึงทำให้สบายใจได้มากขึ้นเมื่อมีคนมาอยู่ด้วย ช่วยเบาแรงลงได้ ทำให้มีเวลาทำงานอย่างเต็มที่ และมีเวลาเหลือสำหรับทำอย่างอื่น และที่สำคัญคือ ช่วยเติมเต็มให้กับผู้สูงอายุ จากที่ปล่อยให้ท่านอยู่คนเดียว ก็มีคนอยู่เป็นเพื่อนทำให้ท่านไม่เหงา และไม่รู้สึกขาด หรือรู้สึกว่าไม่มีมาดูแลยามแก่เฒ่านั่นเอง
คนดูแลผู้สูงอายุมีให้เลือกใช้บริการทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับ และแบบที่อาศัยอยู่ร่วมกัน หากท่านต้องการผู้ดูแลที่อาศัยอยู่ร่วมกัน จะต้องดูแลในเรื่องของที่พัก และอาหารให้กับผู้ดูแลด้วยโดยผู้ดูแลนั้นจะทำหน้าที่ในส่วนของการดูแลผู้สูงอายุเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มีหน้าที่ทำความสะอาดบ้านในลักษณะงานของแม่บ้าน ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุเพียงเท่านั้น
ประเภทของผู้ดูแล มีอะไรบ้าง
ผู้ดูแลมีหลายประเภท ตั้งแต่ผู้ที่ได้รับการว่าจ้างอย่างมืออาชีพ ไปจนถึงสมาชิกในครอบครัวที่อาสารับบทบาทนี้ ผู้ดูแลประเภทต่อไปนี้ หมายถึง ผู้ดูแลผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่ มากกว่าผู้ที่มีความพิการทางร่างกาย และต้องการการดูแลเต็มเวลา
- ผู้ดูแลที่ได้รับการว่าจ้างแบบส่วนตัว: โดยทั่วไปแล้ว ผู้ดูแลประเภทนี้จะพบผ่านตัวแทนที่แนะนำโดยนักบำบัดโรค หรือโรงพยาบาล พวกเขามักจะได้รับการตรวจสอบภูมิหลัง และมีประสบการณ์ในฐานะผู้ดูแลมาก่อน โดยปกติพวกเขาจะจ้างตามกำหนดเวลา เพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่ไม่สามารถให้การดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
- ผู้ดูแลครอบครัว: ผู้ดูแลครอบครัว คือ สมาชิกในครอบครัว ที่เลือกรับบทบาทนี้ อาจเป็นคู่สมรส บุตร หรือสมาชิกครอบครัวคนอื่น ๆ บ่อยครั้งที่พวกเขามีงานอื่นนอกเหนือจากความรับผิดชอบของผู้ดูแล และไม่ได้รับค่าตอบแทนสำหรับหน้าที่การดูแลของพวกเขา
- ผู้ดูแลระยะสั้น: โดยทั่วไปแล้วผู้ดูแลระยะสั้น จะใช้เพื่อทำหน้าที่เมื่อครอบครัวต้องการหยุดพักการดูแลชั่วคราว พวกเขาสามารถพบได้ผ่านหน่วยงาน หรือรับงานโดยอิสระ
หน้าที่ของพนักงานดูแลคนไข้ที่บ้าน
• อาบน้ำ-เช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า เปลี่ยนแพมเพิส
• ดูแลการขับถ่าย จัดยา อาหาร (ป้อนอาหาร ให้อาหารทางสายยาง ตามอาการ)
• ดูแลเรื่องความสะอาดของที่อยู่ของคนไข้ ร่างกาย เสื้อผ้า ของใช้ ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วย
• ดูแลเรื่องการขับถ่าย การนอนไม่เป็นเวลา การพลิกตัว ตะแคง เพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับ การทำแผลในกรณีคนไข้มีแผลกดทับ
• การทำกายภาพเบื้องต้น เมื่อผู้สูงอายุมีอาการเจ็บป่วยเช่น การวัดใช้ การวัดความดัน การเช็ดตัวลดไข้ ทำแผลเบื้องต้น
• ทำความสะอาดอุปกรณ์ และห้องนอนผู้สูงอายุ ของผู้สูงอายุ
• ทำกิจกรรมของผู้สูงอายุ เช่น อ่านหนังสือ พาไปเดินเล่น ผ่อนคลายจิตใจ
• คอยสังเกตอาการของผู้สูงอายุ และบันทึกการดูแลในแต่ละวัน และแจ้งกับญาติถึงอาการเปลี่ยนแปลง



ติดต่อเรา (Contact)
สนใจสอบถามข้อมูล และ ติดตาม KIN (คิน) - Rehabilitation & Homecare
Line
@Kinrehab
Call
065-909-2599
Call
082-361-9119