กินแบบไหนช่วยต้านไมเกรน

การศึกษาผู้ป่วย 1,750 รายที่เป็นโรคไมเกรน ส่วนใหญ่ (75%) จะแจ้งว่ามีตัวกระตุ้นอาการไมเกรนเฉียบพลัน อย่างน้อย 1 อย่าง เรียงตามลำดับความถี่จากมากไปหาน้อย ดังนี้

“ความเครียดทางอารมณ์ (80%) ฮอร์โมนในผู้หญิง การไม่ได้กินอาหาร สภาพอากาศ การนอนหลับไม่สนิท กลิ่นไม่พึงประสงค์ ปวดต้นคอ การเห็นแสง แอลกอฮอล์ ควัน การนอนดึก ความร้อน อาหาร การออกกำลังกาย กิจกรรมทางเพศ (5%)”

อาหารเป็นเหตุกระตุ้น 27% ไม่มาก แต่ก็ไม่น้อย

“กินแบบไหนกระตุ้น”

๐ ไนเตรต (มักมีในอาหารผสมสี เช่น กุนเชียง) การอดอาหาร และไวน์ กระตุ้นอาการปวดไมเกรนได้ [1]

๐ แอสปาร์เทมหรือสารให้ความหวานหรือน้ำตาลเทียม ก็อาจเป็นเหตุนำของไมเกรนได้

๐ โมโนโซเดียมกลูตาเมต (ผงชูรส) กระตุ้นอาการปวดหัวทั่วไปได้ แต่ไม่รู้ว่ากระตุ้นไมเกรนได้ด้วยหรือเปล่า

๐ การสูบบุหรี่ กลิ่น ช็อกโกแลต และไทรามีน (มีมากในกล้วยหอม) ยังพิสูจน์ไม่ได้แน่ว่าเกี่ยวหรือไม่ แต่บางคนอาจไวต่อสิ่งเหล่านี้ ก็ควรเลี่ยงอาหารมีกลิ่น

๐ ในผู้หญิงที่กินยาคุมกำเนิดประเภทมีเอสโตรเจนอยู่ ทำให้ปวดไมเกรนได้ เปลี่ยนเป็นชนิดไม่มีฮอร์โมนชนิดนี้หรือมีต่ำก็อาจดีขึ้นได้

“กินแบบไหนต้าน”

รสชาติ ช่วงปวดไมเกรนมักมีคำแนะนำให้กินอาหารไม่ปรุงแต่ง หรือจะกินอาหารรสอ่อนให้เป็นนิสัยเลยได้ยิ่งดี เช่น

๐ หากจะกินพวกซีเรียล ขนมเบเกอรี่ มันฝรั่งกรุบกรอบ หรืออาหารสำเร็จรูป ก็ให้เลือกที่ไม่ใส่สารให้ความหวานแทนน้ำตาล หรือไม่ใส่สารแต่งกลิ่นและรสชาติ

๐ เนื้อสัตว์ให้เลือกที่สดใหม่ จะได้ไม่ต้องผ่านกรรมวิธีเติมแต่งสารต่างๆมากมาย

๐ เลือกกินกาแฟดำ ไม่ใส่ครีมเทียม ไม่ใส่น้ำตาลเทียม ไม่เอาทรีอินวัน

๐ น้ำขิง (ทำสดใหม่ได้ยิ่งดี)

๐ อาหารตามสั่ง ก็ต้องสั่งกำกับว่าไม่ใส่ผงชูรส หรือผงปรุงที่มีโซเดียมหรือสารเคมีทั้งหลายสูง

ในผู้หญิง อาการไมเกรนอาจมีความเกี่ยวข้องกับการตกไข่หรือมีประจำเดือน มักเกิดขึ้นสองวันก่อนมี หรือสองวันถัดจากวันแรกของการมีประจำเดือน ช่วงดังกล่าวอาจมีอาการตัวบวมๆ (บวมน้ำ) ก็อาจเลี่ยงการกินเกลือหรือกินเค็มลงสักหน่อย

ในเด็ก มีการนำสารอาหารพวกแมกนีเซียมมาใช้ป้องกันอาการไมเกรน แต่มีข้อมูลน้อยและข้อมูลคุณภาพไม่ดีนัก [2] หากจะนำมาประยุกต์ใช้กับการกินเชิงป้องกัน ก็อาจเลือกอาหารที่มีธาตุแมกนีเซียมสูงหน่อยไว้ก่อน เช่น พวกผักโขมหรือผักใบเขียวจัด เมล็ดฟักทอง อัลมอนด์ ปลาแมคเคอเรลปลาทูน่า โยเกิร์ตไขมันต่ำ ถั่วดำและถั่วฝักยาว อาโวคาโด เป็นต้น