โรคกระดูกสันหลังคด ในเด็กและในผู้ใหญ่ (Scoliosis)
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการของโรคนี้
20% เกิดจากตัวโรคที่มีการเจริญเติบโตของกระดูกสันหลัง ระบบประสาท ระบบกระดูกหรือกล้ามเนื้อที่ผิดปกติ เช่น
- โรคกระดูกสันหลังคดตั้งแต่แรกเกิด (Congenital Scoliosis) เนื่องจากขณะแม่ตั้งครรภ์ตัวอ่อนในครรภ์มีกระดูกสันหลังที่ผิดปกติ
- โรคกระดูกสันหลังคดจากโรคทางระบบประสาทหรือระบบกล้ามเนื้อผิดปกติ (Neuromuscular Scoliosis) เช่น โรคกล้ามเนื้อโตมากกว่าปกติ กล้ามเนื้อกระดูกสันหลังฝ่อลีบ เป็นต้น
80% ไม่ทราบสาเหตุ แต่มีปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดโรคคือเรื่องของพฤติกรรม การใช้งานร่างกาย
- โรคกระดูกสันหลังคดแบบไม่ทราบสาเหตุ (Idiopathic Scoliosis) มักเกิดจากการมีความยาวของเข่าไม่เท่ากัน คือ ขาข้างหนึ่งสั้นกว่าอีกข้างหนึ่ง โดยสามารถเกิดขึ้นได้ในวัยต่าง ๆ ได้แก่
- โรคกระดูกสันหลังคดแบบไม่ทราบสาเหตุในวัยทารก (Infantile Idiopathic Scoliosis) ก่อนอายุ 3 ปี
- โรคกระดูกสันหลังคดแบบไม่ทราบสาเหตุในวัยเด็ก (Juvenile Idiopathic Scoliosis) อายุระหว่าง 4 – 10 ปี
- โรคกระดูกสันหลังคดแบบไม่ทราบสาเหตุในวัยรุ่น (Adolescent Idiopathic Scoliosis) อายุระหว่าง 10 – 18 ปี พบมากที่สุด
- โรคกระดูกสันหลังคดจากท่าทางที่ผิด (Functional Scoliosis) เกิดจากความผิดปกติตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ขาสั้นยาวไม่เท่ากัน กล้ามเนื้อหดเกร็ง การบาดเจ็บ
- โรคกระดูกสันหลังคดจากความเสื่อม (Degenerative Lumbar Scoliosis) มักพบในผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุ จากการเปลี่ยนแปลงของกระดูกสันหลังที่ใช้งานเป็นเวลานาน
อาการและแนวทางการดำเนินโรค
อาการและความรุนแรงของกระดูกสันหลังคดแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล สามารถสังเกตได้เบื้องต้น ดังนี้
- ไหล่ทั้งสองข้างไม่เท่ากัน
- แผ่นหลังหรือหน้าอกนูนไม่เท่ากัน
- มองเห็นกระดูกสันหลังคดงอชัดเจน
- ลำตัวเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง
- สะโพกสองข้างไม่เท่ากัน
- นอกจากนี้อาจมีอาการปวดหลัง ปวดท้อง เจ็บซี่โครง กล้ามเนื้อหดตัว เป็นต้น แต่หากอาการรุนแรงจะส่งผลต่อการทำงานของหัวใจและปอด ทำงานได้ไม่เต็มที่ เหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก หายใจติดขัด
วิธีการรักษา
- การรักษาด้วยตัวเอง
- การออกกำลังกายที่ถูกต้องและเหมาะสม
- การใช้ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล เพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อมีอาการ
- การรักษาทางกายภาพบำบัด
- การสอนการจัดท่าในการใช้ชีวิตประจำวัน การนั่ง การนอน การทรงตัว
- การฝึกการหายใจให้ถูกต้องเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอด
- การออกกำลังกายด้วยวิธีีเฉพาะที่เหมาะสมเพื่อช่วยรักษาให้กระดูกสันหลังกลับเข้าสู่แนวเดิม หรือให้ใกล้เคียงแนวปกติให้มากที่สุด การรักษาจะจำเพาะแตกต่าง กันไปขึ้นอยู่กับแต่ละคน และการให้การรักษานี้ควรเป็นนักกายภาพบำบัดที่ได้รับการอบรมเฉพาะทางเกี่ยว กับโรคกระดูกสันหลังคด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการรักษาสูงสุด
- การรักษาด้วยกระบวนการทางการแพทย์
- การใส่เสื้อเกราะดัดหลัง (Brace) แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยเด็กที่ยังมีการเจริญเติบโตของกระดูก หรือมีอาการกระดูกสันหลังคดในระดับปานกลาง
- สวมเสื้อเกราะดัดหลัง (Brace) ที่จะช่วยป้องกันกระดูกไม่ให้เกิดความคดงอมากขึ้น
- การผ่าตัดเชื่อมข้อกระดูกสันหลัง (Spinal Fusion) อาการกระดูกสันหลังคดที่รุนแรงมักเกิดขึ้นตามระยะเวลาของอาการ แพทย์อาจจำเป็นต้องใช้การรักษาด้วยการผ่าตัดเพื่อลดการคดงอของกระดูกและป้องกันอาการรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น ศัลยแพทย์จะยึดกระดูกชิ้นเล็ก ๆ เข้ากับแนวกระดูกสันหลัง โดยใช้ชิ้นส่วนกระดูกหรือวัสดุที่คล้ายคลึงกับกระดูก เหล็กดาม ตะขอ และนอต เพื่อตรึงไว้ด้วยกัน
- การรักษาตามสาเหตุที่ทำให้กระดูกสันหลังคด
กระดูกสันหลังคดบางชนิดอาจมีสาเหตุจากความผิดปกติในระบบประสาทไขสันหลัง การติดเชื้อ หรือมีเนื้องอกของกระดูก เมื่อรักษาที่ต้นเหตุแล้ว ความคดงอของกระดูกก็อาจหายดีขึ้นได้
การป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีกของโรคนี้
ปรับพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน หลีกเลี่ยงท่าทางที่กระตุ้นต่อการเกิดกระดูกสันหลังคดหมั่นสังเกตร่างกายตนเองอยู่เสมอ
ติดต่อเรา (Contact)
สนใจสอบถามข้อมูล และ ติดตาม KIN (คิน) - Rehabilitation & Homecare
Line
@Kinrehab
Call
091-803-3071
Call
095-884-2233
Tags