กริ๊ง! กริ๊ง! เสียงเครื่องนาฬิกาดังขึ้นเพื่อบอกเราว่า มันเริ่มต้นเช้าวันใหม่ และไปทำงานอีกครั้งแล้ว หลับสบาย ตื่นสดใส เพื่อให้เราทำงานได้ดี นั่นเป็นเรื่องสำคัญมากๆ มันจำเป็นในการดำเนินชีวิตประจำวันที่ดี แต่บางครั้ง เมื่อเรานอนหลับไปแล้ว พอตื่นขึ้นมาเกิดความเหนื่อยล้า ไม่สดใส ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น มีปัญหาในการหลับในระหว่างวิกฤตโรคต่างๆ หรืออาจจะเป็นสาเหตุที่เกิดจากความไม่สบายใจ จากปัญหาอยู่ในหัวใจ ฯลฯ ที่เป็นสาเหตุได้ แล้วจะแก้ไขยังไง ไปดูวิธีกัน
การทำ Sleep Test คืออะไร?
การทำ Sleep Test เป็นกระบวนการที่ใช้ในการวิเคราะห์ปัญหาการนอนหลับทั้งหมด โดยทำการผลิต และบริการโดยสถานพยาบาลที่มีการพัฒนาความสามารถในการวิเคราะห์ปัญหานอนหลับจริงๆ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาการทดสอบประมาณในเวลา 1-2 คืน โดยต้องปรับสภาพการนอนให้เหมาะสมกับโรค หรืออาการที่คนไข้มารับการตรวจ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง จากกระบวนการที่จะทำให้ทราบวิธีการแก้ปัญหากับผู้รับบริการ ซึ่งผลของการวิเคราะห์เมื่อการนอนหลับมีปัญหาแล้วของคนไข้บางท่าน ทำให้เกิดอาการเป็นกำลังใจแตกต่างออกไปมากกว่ามากมาย
การวิเคราะห์ผลของ Sleep Test ที่ถูกต้องจะช่วยให้ประเมินให้ได้ว่า ปัญหาการนอนภายในหลังจากการปรับสภาพกรณีหมู่คนแล้วทำให้เราสามารถตัดสินใจลงมือแก้ไขได้ถูกต้อง และหาทางแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ และจัดการกับปัญหาอย่างแม่นยำตรงไปตรงมาได้อย่างถูกต้อง
ประโยชน์จากการทำ Sleep Test
การทำ Sleep Test เป็นกระบวนการที่สำคัญ ที่ช่วยแก้ปัญหาในการนอนหลับ ดังนั้น หากคุณนอนหลับได้อย่างมีคุณภาพ และรู้ปัญหากานอนหลับของตนเอง ก็ควรทำ Sleep Test เพื่อจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม และสามารถแก้ไขปัญหาการนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Sleep Test เหมาะกับใครบ้าง
กลุ่มที่ 1 คือ กลุ่มผู้ป่วยที่มีความผิดปกติจากการนอนหลับ เช่น
- ภาวะนอนกรน หยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น
- ภาวะนอนไม่หลับ
- ภาวะนาฬิกาชีวิตแปรปรวน
- ภาวะนอนละเมอ
- ภาวะนอนกัดฟัน
- ภาวะการเคลื่อนไหว และพฤติกรรมผิดปกติขณะหลับ
- ภาวะนอนขากระตุก
- ภาวะขาอยู่ไม่สุขขณะหลับ
- ภาวะง่วงนอนมากในช่วงกลางวัน
- ภาวะลมหลับ
กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตสูง
กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน
กลุ่มที่ 4 คือ กลุ่มคนอ้วน
เครื่องทำ Sleep Test เป็นอย่างไร?
เครื่อง Micro-pressure Hyperbaric Oxygen Chamber (ห้องออกซิเจนแรงดันต่ำ) เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ใช้ในการบำบัดด้วยออกซิเจนภายใต้แรงดันที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่ละลายในเลือด และเนื้อเยื่อของร่างกาย ประโยชน์ของการใช้งานได้แก่:
- เพิ่มออกซิเจนในเลือด : ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนในเลือด ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเนื้อเยื่อและอวัยวะที่ต้องการออกซิเจนเพิ่มเติม
- การฟื้นตัวจากบาดแผล : ส่งเสริมการฟื้นตัวของบาดแผลต่างๆ เช่น การรักษาแผลเรื้อรัง แผลจากการเผาไหม้ หรือแผลที่ไม่สมานง่าย
- ลดอาการอักเสบ : ช่วยลดอาการอักเสบและเพิ่มการหมุนเวียนของเลือด
- บำบัดโรคที่เกี่ยวข้องกับออกซิเจน : เช่น โรคหลอดเลือดสมอง, โรคหัวใจ, และบางกรณีของออทิสติก
- ส่งเสริมการฟื้นตัวของกีฬา : ใช้โดยนักกีฬาเพื่อเร่งการฟื้นตัวหลังการออกกำลังกายหรือบาดเจ็บจากการแข่งขัน
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน : มีการศึกษาที่บ่งชี้ว่าอาจช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
การใช้เครื่อง Micro-pressure Hyperbaric Oxygen Chamber ควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เนื่องจากมีข้อควรระวังและข้อจำกัดบางประการในการใช้งาน
KIN - Rehabilitation & Homecare
สาขา ลาดพร้าว 71
เลขที่ 6 ซอยนาคนิวาส 18 (ลาดพร้าว 71)
เวลาทำการ ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.
: KIN - Rehabilitation & Homecare
แผนที่ : https://bit.ly/2VvPDq6
KIN Origin Healthcare Wellness Center
สาขา สุขุมวิท 107
596 หมู่ 7 ซอยแบริ่ง 10 ถนนแบริ่ง 107
สำโรงเหนือ เมืองสมุทรปราการ
เวลาทำการ ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.
: Kin Origin Sukhumvit 107
แผนที่ : https://shorturl.asia/KxzBk