ไขมันในเลือดสูง เสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง

โรคไขมันในเลือดสูง

 

โรคไขมันในเลือดสูงคืออะไร

โรคไขมันในเลือดสูง นิยามในภาพใหญ่ว่าคือภาวะที่มีไขมัน ในเลือดสูงไปจากเกณฑ์ปกติดังนี้

  1. คอเลสเตอรอลรวม สูงกว่า 200 มก./ดล. ขึ้นไป
  2. ไขมันเลว (LDL) สูงกว่า 130 มก./ดล. ขึ้นไป
  3. ไขมันดี (HDL) ต่ํากว่า 40 มก./ดล.
  4. ไตรกลีเซอไรด์ สูงกว่า 150 มก./ดล. ขึ้นไป

เนื่องจากการมีไขมันในเลือดสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือด กล่าวคือ ยิ่งมีสถานะ ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดระดับมีอาการแล้วยิ่งต้องให้ความสําคัญกับการแก้ไขภาวะไขมันในเลือดสูง และในคนที่มีปัจจัยเสี่ยงการเป็นโรคหลอดเลือดแต่ยังไม่มีอาการของโรค ก็พึงต้องให้ความสําคัญกับ การแก้ไขภาวะไขมันในเลือดสูงมากกว่าคนทั่วไปที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือด

 

การรักษาโรคไขมันในเลือดสูงด้วยตนเอง

หัวใจของการลดไขมันในเลือดคืออาหาร อาหารที่ลดไขมัน LDL ในเลือดได้ดีที่สุดคืออาหาร มังสวิรัติที่ไม่มีเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์เลย งานวิจัยแบ่งกลุ่มเปรียบเทียบ 11 งานวิจัยทั่วโลก สรุปได้ว่า อาหารแบบมังสวิรัติลดไขมันเลว (LDL) ลงได้ประมาณ 34%

งานวิจัยที่สเปนพบว่า ยิ่งมีความเข้มงวดในปริมาณเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์มาก ยิ่งมี ไขมัน LDL ต่ำ กล่าวคือ

  • กลุ่มคนกินทั้งเนื้อสัตว์ และพืช มีไขมัน LDL เฉลี่ย 123.43 มก./ดล.
  • กลุ่มคนกินมังสวิรัติชนิดกินนม กินไข่ด้วย มีไขมัน LDL เฉลี่ย 101.47 มก./ดล.
  • กลุ่มคนกินทั้งเนื้อสัตว์ และพืช  LDL เฉลี่ย 123 มก./ดล.
  • กลุ่มคนกินมังสวิรัติ และนม ไข่ LDL เฉลี่ย 101 มก./ดล.
  • กลุ่มคนกินมังสวิรัติ และนม LDL 87 เฉลี่ย มก./ดล.
  • กลุ่มคนกินวีแกน LDL เฉลี่ย 69 มก./ดล.
  • กลุ่มคนกินมังสวิรัติชนิดกินนม ไม่กินไข่ มีไขมัน LDL เฉลี่ย 87.71 มก./ดล.
  • กลุ่มคนกินมังสวิรัติชนิดวีแกน มีไขมัน LDL เฉลี่ย 69.28 มก./ดล.

 

อนึ่ง สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐ (NIH) ได้สรุปผลวิจัยการลด LDL ด้วยการปรับเปลี่ยนอาหาร ไว้ดังนี้

  1. ถ้าลดไขมันอิ่มตัวจากอาหารจนเหลือแคลอรี่จากไขมันอิ่มตัว (ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเนื้อสัตว์) ให้เหลือไม่เกิน 7% ของแคลอรี่รวม จะลด LDL ลงได้ 10%
  2. ถ้าลดคอเลสเตอรอลจากอาหาร (ซึ่งมีอยู่แต่ในสัตว์ เช่น เนื้อ นม ไข่ไก่ ปลา) เหลือไม่เกิน 200 มก./วัน จะลด LDL ลงได้ 5%
  3. ถ้าลดน้ําหนักได้ 4.5 กก. ขึ้นไป จะลด LDL ได้ 8%
  4. ถ้ากินอาหารเส้นใย (ซึ่งมีอยู่แต่ในอาหารพืช) ให้ได้วันละ 10 กรัม จะลด LDL ได้ 5%
  5. ถ้าเพิ่มสารจากพืชในกลุ่ม Plant stanolsterol ในอาหาร 2 กรัม/วัน จะลด LDL ได้ถึง 15%

 

ดังนั้น การรักษาโรคไขมันในเลือดสูงด้วยตนเองเน้นไปที่การเปลี่ยนอาหารเป็นอาหารมังสวิรัติ ที่มีไขมันรวมต่ําและไขมันอิ่มตัวต่ํา มีเส้นใยอาหารมากซึ่งให้ Plant stanolsterol เป็นส่วนของเส้นใยด้วย

(ขอบคุณข้อมูลจาก :นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ และพญ.พิจิกา วัชราภิชาต, 2566, “Healthy Life Bible คัมภีร์สุขภาพดี สุขภาพดีได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง”, หน้า 222-223)

 

สาเหตุของโรคไขมันในเลือดสูง

  • กรรมพันธุ์ บางคนอาจมีแนวโน้มที่จะมีระดับไขมันในเลือดสูงกว่าคนอื่นๆ เนื่องจากกรรมพันธุ์
  • การรับประทานอาหารที่ไม่ดี การรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์สูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน เนย ชีส และอาหารแปรรูปต่างๆ อาจทำให้ระดับไขมันในเลือดสูงขึ้นได้
  • การขาดการออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นประจำสามารถช่วยลดระดับไขมันในเลือดได้
  • โรคอื่นๆ บางโรค เช่น โรคเบาหวาน โรคไต และโรคตับ อาจทำให้ระดับไขมันในเลือดสูงขึ้นได้
  • การใช้ยาบางชนิด ยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิดและยาขับปัสสาวะ อาจทำให้ระดับไขมันในเลือดสูงขึ้นได้

 

อาการของโรคไขมันในเลือดสูง

โรคไขมันในเลือดสูงมักไม่มีอาการ แต่ในบางรายอาจมีอาการดังนี้

1. ปวดศีรษะ

2. มึนงง

3. อ่อนเพลีย

4. เจ็บหน้าอก

5. หายใจลำบาก

6. ปวดท้อง

7. คลื่นไส้

8. อาเจียน

 

การรักษาโรคไขมันในเลือดสูง

การรักษาโรคไขมันในเลือดสูงขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค และความรุนแรงของโรค แพทย์อาจแนะนำให้ปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหาร ออกกำลังกายเป็นประจำ และลดน้ำหนัก หากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้ผล แพทย์อาจสั่งจ่ายยาเพื่อลดระดับไขมันในเลือด

 

การป้องกันโรคไขมันในเลือดสูง

มีหลายวิธีที่สามารถช่วยป้องกันโรคไขมันในเลือดสูงได้ เช่น

1. รับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ต่ำ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน

2. ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์

3. รักษาให้น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติ

4. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่

5. จำกัดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

6. ควบคุมโรคเบาหวาน โรคไต และโรคตับ

7. ปรึกษาแพทย์หากต้องใช้ยาที่อาจทำให้ระดับไขมันในเลือดสูงขึ้น

โรคไขมันในเลือดสูงเป็นโรคที่สามารถป้องกันและรักษาได้ หากคุณมีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคนี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการป้องกัน และรักษาโรค

 

 

สนใจกระตุ้นระบบประสาทและสมอง ด้วยเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า TMS และ PMS

ติดต่อได้ที่

 

 
 

KIN - Rehabilitation & Homecare 
สาขา ลาดพร้าว 71

เลขที่ 6 ซอยนาคนิวาส 18 (ลาดพร้าว 71)

เวลาทำการ  ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.

 : KIN - Rehabilitation & Homecare
 แผนที่ : https://bit.ly/2VvPDq6

KIN Origin Healthcare Wellness Center
สาขา สุขุมวิท 107

596 หมู่ 7 ซอยแบริ่ง 10 ถนนแบริ่ง 107
สำโรงเหนือ เมืองสมุทรปราการ 

เวลาทำการ  ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.

 : Kin Origin Sukhumvit 107
 แผนที่ : https://shorturl.asia/KxzBk


ข่าวสารบทความ อื่นๆ

KIN Rehab