ฝุ่น PM 2.5 เพิ่มความเสี่ยงการเกิด โรคหลอดเลือดสมอง จริงหรือไม่?
ฝุ่น PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน ซึ่งมีขนาดเล็กมาก ๆ จนสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ เข้าได้ทั้งทางการหายใจ ลึกเข้าไปถึงในปอด และในถุงลมปอดได้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพทั้งระบบการเดินหายใจ และเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง
อันตรายของฝุ่น PM 2.5
• โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคหลอดลมอักเสบ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
• โรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง
• โรคมะเร็งปอด
• โรคผิวหนัง เช่น ผิวหนังอักเสบ ผื่นคัน
• โรคตา เช่น ตาแห้ง ตาแดง
กลุ่มเสี่ยงต่อฝุ่น PM 2.5
• เด็กเล็ก
• ผู้สูงอายุ
• ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด โรคหลอดลมอักเสบ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็งปอด
• ผู้ที่ทำงานในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองสูง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม สถานที่ก่อสร้าง
ฝุ่น PM 2.5 กับโรคหลอดเลือดสมอง
ฝุ่น PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่าเส้นผมของมนุษย์ถึง 25 เท่า ฝุ่น PM 2.5 สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางการหายใจ และสามารถเดินทางไปยังอวัยวะต่างๆ ได้ทั่วร่างกาย รวมถึงสมอง
มีงานวิจัยหลายชิ้นที่พบว่าการสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 เป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง
กลไกที่ทำให้ฝุ่น PM 2.5 เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่มีการสันนิษฐานว่าฝุ่น PM 2.5 อาจทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งนำไปสู่การเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ นอกจากนี้ ฝุ่น PM 2.5 ยังอาจทำให้เกิดการแข็งตัวของหลอดเลือด และการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร JAMA Internal Medicine เมื่อปี 2017 พบว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีระดับฝุ่น PM 2.5 สูงมีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองมากกว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีระดับฝุ่น PM 2.5 ต่ำถึง 13%
อีกงานวิจัยหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Stroke เมื่อปี 2018 พบว่าผู้ที่สัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 เป็นเวลานานมีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองมากกว่าผู้ที่ไม่ได้สัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 ถึง 25%
จากงานวิจัยทั้งสองชิ้นนี้แสดงให้เห็นว่าการสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 เป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้อย่างมีนัยสำคัญ
ดังนั้น เพื่อปกป้องสุขภาพของคุณ และรักษาสมองให้สมบูรณ์ คุณควรใช้มาตรการป้องกันฝุ่น PM 2.5 อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากากป้องกัน ที่อยู่ในรถยนต์ที่มีฟิลเตอร์อากาศ หรือการหลีกเลี่ยงที่อยู่ในที่มีมลทินค้างคาว และอย่าลืมทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ
วิธีป้องกันฝุ่น PM 2.5
มีหลายวิธีที่สามารถช่วยป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ เช่น
• สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้าน
• หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่มีฝุ่น PM 2.5 สูง
• ปิดประตู และหน้าต่างให้มิดชิด
• ใช้เครื่องฟอกอากาศในบ้าน
• ปลูกต้นไม้ในบ้าน
**หากมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์

หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอ จาม หายใจลำบาก แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ใจสั่น ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม
ถ้าหากคุณเป็นบุคคลที่ทำงานในกลุ่มอาชีพที่ต้องอยู่นอกบ้านเป็นเวลานาน หรืออาจเสี่ยงต่อการสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 เป็นประจำ คุณควรระวังต่อการเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองอย่างยิ่ง เพราะฝุ่น PM 2.5 ที่เราหายใจเข้าไปนั้น สามารถส่งผลต่อระบบทางเลือด และหลอดเลือดได้
(ขอบคุณข้อมูลจาก : BBC Thailand)
 

สนใจกระตุ้นระบบประสาทและสมอง ด้วยเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า TMS และ PMS

ติดต่อได้ที่

 

 
 

KIN - Rehabilitation & Homecare 
สาขา ลาดพร้าว 71

เลขที่ 6 ซอยนาคนิวาส 18 (ลาดพร้าว 71)

เวลาทำการ  ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.

 : KIN - Rehabilitation & Homecare
 แผนที่ : https://bit.ly/2VvPDq6

KIN Origin Healthcare Wellness Center
สาขา สุขุมวิท 107

596 หมู่ 7 ซอยแบริ่ง 10 ถนนแบริ่ง 107
สำโรงเหนือ เมืองสมุทรปราการ 

เวลาทำการ  ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.

 : Kin Origin Sukhumvit 107
 แผนที่ : https://shorturl.asia/KxzBk


ข่าวสารบทความ อื่นๆ

KIN Rehab