พรรคนี้เสี่ยง ออฟฟิศซินโดรม
กายหยาบอยู่ออฟฟิศ กายทิพย์อยู่ KIN คลินิกกายภาพ
โรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)
โรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ไม่ใช่โรคที่ร้ายแรง สามารถรักษาหายได้ ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่เกิดขึ้นกับคนที่ทำงานในออฟฟิศ เนื่องจากลักษณะงานที่ต้องนั่งหน้าคอมพิวเตอร์หรือทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยท่าทางซ้ำๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน จนอาจส่งผลให้เกิดโรคและความผิดปกติในระบบต่างๆ ของร่ากาย
สาเหตุหลักของโรคออฟฟิศซินโดรม
คือการใช้งานกล้ามเนื้องและข้อต่อที่ผิดไปจากภาวะปกติ เกิดจากการทำงานในพื้นที่จำกัดและขาดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและข้อต่อ ได้แก่
1. นั่งไขว่ห้าง
2. นั่งหลังงอ หลังค่อม
3. นั่งเบาะเก้าอี้ไม่เต็มก้น
4. ยืนแอ่นพุง/ยืนหลังค่อม
5. สะพานกระเป๋าหนักข้างเดียว
พฤติกรรมที่ก่อให้เกิดโรคออฟฟิศซินโดรม
ได้แก่ ความเครียด ทานอาหารไม่ตรงเวลา ทำงานหนักเกินไป และไม่ออกกำลังกาย
อาการที่พบได้บ่อยในออฟฟิศซินโดรม
1. กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง
2. เอ็นกล้ามเนื้ออักเสบ/ยกแขนไม่ขึ้น
3. อาการปวด/ชาร้าวลงแขน
4. ยืนแอ่นพุง/ยืนหลังค่อม
โรคออฟฟิศซินโดรมรักษาได้อย่างไร
ปัจจุบันการรักษากลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรมด้วยวิธีต่างๆ นั้นเป็นเพียงการรักษาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด เป็นการรักษาอาการกล้ามเนื้ออักเสบหรือรักษาพังผืดในกล้ามเนื้อ ดังนั้นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงาน พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยลดการเกิดอาการบาดเจ็บต่างๆ ที่จะมาบั่นทอนคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างถาวร
วิธีการรักษา ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)
- การรักษาด้วยตัวเอง
• ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น ไม่ควรนั่งติดกันเป็นเวลานาน ปรับเปลี่ยนท่านั่งให้เหมาะสม
• การยืดกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น
• การออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรง - การรักษาทางกายภาพบำบัด
• การรักษาทางกายภาพบำบัด
• การรักษามือนักกายภาพบำบัด (Manual Technique)
การรักษาด้วยเครื่องมือทางกายภาพบำบัด เช่น
• อัลตร้าซาวด์ (Ultrasound)
• การกระตุ้นไฟฟ้า (Electrical stimulation)
• เลเซอร์ (Laser)
• คลื่นกระแทก (Shock wave)
• คลื่นสั้น (Short wave)
การออกกำลังกายเพื่อการรักษา (Therapeutic exercise)
การรับคำแนะนำอื่นๆ เช่น การยืดกล้ามเนื้อ การปรับเปลี่ยนท่านั่งให้เหมาะสม การลดการทำงานของกล้ามเนื้อที่ไม่จำเป็น
การป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีกของโรคนี้
เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อที่ซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ควรที่จะต้อง
• ปรับที่พฤติกรรมการทำงาน ให้มีเวลาพัก
• ปรับและจัดท่าทางการทำงานให้เหมาะสม
• ยืดกล้ามเนื้อ
• ออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรง
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
• พักผ่อนให้เพียงพอ
• ฝึกผ่อนคลายความเครียด