ธาราบำบัด ดีอย่างไร?

ธาราบำบัดคืออะไร

 

    การรักษาทางกายภาพบำบัด มีให้เลือกหลายวิธีตามความเหมาะสม แต่หนึ่งในวิธีรักษาทางกายภาพบำบัดที่ได้รับความนิยม และมีประสิทธิภาพคือ ธาราบำบัด ธาราบำบัดเป็นวิธีที่ใช้น้ำเป็นตัวกลางในการรักษาโดยอาศัยคุณสมบัติของน้ำ เช่น ความดันน้ำ แรงลอยตัว ที่ช่วยพยุงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ลดแรงกดที่กระทำต่อข้อต่อ ทำให้เคลื่อนไหวในน้ำได้ง่ายและอิสระมากขึ้น และยังมีผลต่อการลดปวดลดบวมของร่างกาย คลื่นและกระแสน้ำจะมีผลต่อการช่วยและให้แรงต้านในการออกกำลังกายกล้ามเนื้อ โดยธาราบำบัดมีหลายรูปแบบให้เลือกประยุกต์ใช้ตามเป้าหมายของการรักษาตามผลทางสรีรวิทยาที่ต้องการ

 

ประโยชน์ของการรักษาด้วยธาราบำบัด

  1. ลดอาการปวดตามข้อต่อต่าง ๆ ของร่างกาย
  2. ลดอาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อที่มีปัญหา
  3. เพิ่มกำลังกล้ามเนื้อในผู้ป่วยที่มีอาการอ่อนแรง
  4. เพิ่มมุมการเคลื่อนไหวของข้อต่อที่มีปัญหาข้อยึดติด
  5. กระตุ้นความรู้สึกของข้อต่อ เพิ่มความสามารถในการทรงตัว ลดความเสี่ยงในการล้ม
  6. ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบหายใจ และการไหลเวียนเลือด
  7. ผ่อนคลายความเครียด สร้างความมั่นใจในการทำกิจกรรม
  8. ลดอาการบวม

มีงานวิจัยที่ทำการศึกษาในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอาการเข่าเสื่อมต่อการรักษาด้วยธาราบำบัดว่ามีผลต่ออาการปวด ความสามารถในการทำกิจกรรมและคุณภาพชีวิตอย่างไร โดยผู้เข้าร่วมจะได้รับโปรแกรมการรักษาด้วยธาราบำบัดในสระน้ำอุ่นใช้เวลาครั้งละ 40 นาที จำนวน 3 ครั้ง/สัปดาห์ เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าผู้สูงอายุที่มีอาการเข่าเสื่อมมีอาการปวดลดลง มีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น และมีการพัฒนาความสามารถในการทำกิจกรรมและเพิ่มคุณภาพชีวิตอีกด้วย

 

ธาราบำบัดเหมาะกับใครบ้าง
จากหลักฐานทางวิชาการและงานวิจัยพบว่าธาราบำบัดให้ผลการรักษาที่ดีในกลุ่มโรคและกลุ่มอาการดังต่อไปนี้
   กลุ่มอาการด้านระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
ผู้ที่มีอาการปวด จากโรคข้ออักเสบและจากการเสื่อมของข้อต่าง ๆ ตามร่างกาย เช่น การปวดเข่า ปวดหลัง
ปวดไหล่
ผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ ที่มีการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ
ผู้ป่วยออฟฟิศซินโดรมที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน
ผู้ป่วยที่อยู่ในช่วงฟื้นฟูหลังการผ่าตัด หลังการถอดเฝือก ซึ่งอาจมีปัญหาเรื่องการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อและการยึดติดของมุมการเคลื่อนไหว
หญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการปวดหลัง และช่วยเพิ่มความพร้อมด้านร่างกายและจิตใจ
นักกีฬาที่มีอาการบาดเจ็บ หรือช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังการแข่งขันหรือฝึกซ้อม
ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก การบริหารในน้ำจะช่วยลดแรงกระแทกของข้อต่อ
กลุ่มอาการด้านระบบประสาท 
ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต ที่มีปัญหาการเกร็งตัวและอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ รวมถึงปัญหาด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย ที่ต้องการฝึกเดิน ฝึกการทรงตัวหรือทำกิจวัตรประจำวัน
กลุ่มอาการด้านระบบไหลเวียนเลือด
ผู้ที่มีอาการบวมของแขนและขา จากปัญหาเรื่องการไหลเวียนเลือด
กลุ่มอาการด้านเด็ก
เด็กที่มีพัฒนาการช้า และมีการประสานการทำงานของกล้ามเนื้อบกพร่อง

 

ใครบ้าง? ไม่สามารถทำธาราบำบัดได้ 

  1. มีโรคติดต่อทางผิวหนัง
  2. มีไข้
  3. มีแผลเปิด
  4. มีการติดเชื้อในร่างกาย
  5. มีความผิดปกติของระบบหายใจและไหลเวียนเลือด เช่น มีภาวะหัวใจล้มเหลว การขยายตัวของทรวงอกน้อย มีปัญหาความดันโลหิตสูงหรือต่ำเกินไปที่ควบคุมไม่ได้
  6. ไม่สามารถกลั้นอุจจาระหรือปัสสาวะได้
  7. มีประจำเดือน
  8. โรคชัก
  9. แพ้คลอรีน (กรณีสระคลอรีน)
  10. มีปัญหาด้านสภาพจิตใจที่กลัวการลงน้ำ

 

สิ่งที่ต้องคำนึงในการรักษาด้วยธาราบำบัด
ไม่ควรลงสระทันทีหลังทานอาหารเสร็จ ควรเว้นระยะเวลาไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
ควรเลือกชุดแต่งกายให้เหมาะสมในการรักษาหรือออกกำลังกายในน้ำ
อุปกรณ์ที่ใช้ในการออกกำลังกายในน้ำควรเลือกตามความเหมาะสมของการฝึก มีทั้งใช้ฝึกการทรงตัว ช่วยพยุงตัวในน้ำ ใช้เพิ่มแรงต้านในการออกกำลังกายในน้ำ ตัวอย่างเช่น ห่วงยาง, แผ่นโฟมลอยน้ำ, Water Dumbell และ Aqua Water Belt เป็นต้น
อุณหภูมิน้ำอุ่นที่เหมาะสม 34 – 37 องศาเซลเซียส ซึ่งมีผลต่อการไหลเวียนเลือดในร่างกาย
ระดับความลึกของน้ำให้พอดีต่อการฝึก ยิ่งระดับน้ำลึกขึ้นยิ่งมีแรงดันต่อร่างกายมากขึ้น
หากมีโรคประจำตัวที่ต้องให้ความระมัดระวังมากขึ้น ควรแจ้งก่อนการฝึกทุกครั้ง และต้องหยุดการรักษาหรืออกกำลังกายในน้ำทันที หากมีอาการแน่นหน้าอก เวียนศีรษะ คลื่นไส้ และหน้ามืด

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล

สอบถามข้อมูล และนัดดูสถานที่

 
 
KIN Origin Healthcare Wellness Center
ซอยแบริ่ง 10 สุขุมวิท 107
 
เวลาทำการ  ทุกวัน 08.00 – 19.00 น.
แผนที่
อาคาร KIN Origin HealthCare Wellness Center
https://goo.gl/maps/5GzBKxGgzdNVwSw29

ข่าวสารบทความ อื่นๆ

KIN Rehab