พิธีกร : ความรู้สึกแรกที่ทราบว่าคุณแม่เป็นโรค STROKE มีความรู้สึกอย่างไรคะ ?
คุณอ้อย : ความรู้สึกแรกก็กังวลค่ะ สองจิตสองใจว่าหลังจากผ่าตัดแล้วแม่จะกลับมาเหมือนเดิมไหมหรือว่าถ้าไม่เหมือนเดิมจะถึงขั้นไหนมีความกลัวนิดๆว่าผลมันจะเป็นยังไง
พิธีกร : แล้วพอการรักษาผ่านพ้นไปด้วยดีคุณแม่ได้รับความปลอดภัยจากการรักษาขั้นตอนต่อไปคือการกลับบ้านฟื้นฟูเคยคิดถึงการฟื้นฟูตรงนี้ไหมคะ?
คุณอ้อย : ตอนแรกไม่ได้คิดเลยเพราะว่าคงจะได้แค่นี้แหละ อยู่โรงพยาบาลแค่ 1 เดือน หมอเขาก็บอกว่ากลับบ้านได้แล้วนะ และก็กลับบ้านเดี๋ยวคนไข้จะดีขึ้นเองเพราะไปเจอสภาพที่คุ้นเคย สุขภาพจิตจะดีขึ้นคุณหมอก้แนะนำอย่างนั้นทีนี้ระหว่างช่วงที่อยู่โรงพยาบาลก็มีโรคแทรกซ้อนขึ้นมาก็จำเป็นต้องอยู่เดือนกว่า ๆ เกือบ 2 เดือนในช่วงระหว่างนั้นเตรียมตัวจะกลับบ้านแล้วบังเอิญว่ามีเพื่อนของแฟนเขาแนะนำว่าไปที่ศูนย์บำบัด นะตอนแรกเราก็ไปที่ ศูนย์ฟื้นฟูผู้สูงอายุที่มีการกายภาพบำบัดทั่ว ๆ ไปก็ไปอยู่ 1 เดือนเสร็จแล้วซึ่งระหว่าง 1 เดือนนั้น ดูแนวโน้มว่ามีพัฒนาการค่อนข้างช้าเราก็คิดว่าจะทำอย่างไรดีกลับบ้านเลยไหมหรือว่าจะลองเสิร์ชดูที่อื่นดูก่อนพอลองเสิร์ชหาดูว่าจะมีศูนย์อะไรฟื้นฟูผู้ป่วยสมองที่เป็น STROKE โดยตรงไหมปรากฏว่าเจอ KIN เด้งขึ้นมาเราก็ดูหลายที่ ที่เลือก KIN เพราะใกล้บ้านด้วยทำให้สะดวกในการเดินทางอีกอย่างนึงก็กะไว้ว่าถ้าเผื่อบางทีแม่ดูหงุดหงิดบ้างเราอาจะพากลับบ้านไปเยี่ยมที่บ้านบ้างซึ่งก็โอเคก็ได้ผลตรงนั้นตรงที่ว่าพอมาที่ KIN แล้วใกล้บ้านเราก็มีเวลาพาแม่กลับไปเยี่ยมบ้านบ้างก็ดีขึ้นก็เลยเลือกที่ KIN ที่อยู่ใกล้บ้านแล้วก็สะดวกด้วยแล้วก็มีดูแลผู้ป่วย STROKE โดยตรงด้วยมีคุณหมอที่สามารถปรึกษาได้คุณหมอปุ้มเนี่ยท่านก็ให้คำแนะนำแล้วก็มีการใช้เครื่องเครื่องไม้เครื่องมือที่เราเห็นแล้วว่าน่าจะลองดูอย่างตอนแรกเนี่ยการทำ TMS แต่ปรากฏว่าคุณแม่ผ่าตัดมามีฝังขดลวดอยู่ซึ่งก็ไม่สามารถที่จะยิงเครื่อง TMS เครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้าได้โดยตรงที่สมองก็เลยสามารถทำได้แค่ RTMS กระตุ้นที่สมองกับขา
พิธีกร : ได้รับการตอบสนองที่ดีไหมคะ หลังจากที่ทำแล้วพัฒนาการเป็นไปได้ตามที่คาดหวังไหมคะ ?
คุณอ้อย : ก็ดีค่ะ ทำให้เรามีความหวังเพราะว่าพอกระตุ้นไปแล้วแค่ครั้งแรกก็มีความรู้สึกว่าเริ่มมีแรงขยับแล้วก็ประกอบอีกอย่างนึงก็คือว่าระหว่างที่อยู่ KIN เราก็ซื้อคอร์สสำหรับกายภาพบำบัดทุกวันเลย อีกอย่างนึงถ้าเราทำทุกวันมันก็จะได้ต่อเนื่องด้วยก็เลยให้คุณแม่ทำทุกวันทั้งสองอย่างควบคู่กันไปแล้วหมอปุ้มที่ทำ rTMS ด้วยก็มีให้วิตามิน Boost ด้วย ให้วิตามินที่ไปกระตุ้นสมอง บำรุงสมองแล้วก็มีให้ยาสำหรับแก้ผังผืดก็รู้สึกว่าได้ผลดีขึ้น รู้สึกว่าอาการของแม่ดีขึ้นเร็วมาก
พิธีกร : อยู่ประมาณกี่เดือนค่ะ
คุณอ้อย : 1 เดือนเต็มค่ะก็สามารถกลับบ้านได้ค่ะ
พิธีกร : คุณแม่พอเดินได้?
คุณอ้อย : เดินได้ค่ะ ความจริงก็อยากอยู่ต่อนะ (หัวเราะ) จะได้แข็งแรงมากขึ้นแล้วก็จะได้มีพัฒนาการมากกว่านี้ แต่ว่าด้วยความที่ตั้งแต่ผ่าตัดแล้วก็มาอยู่ศูนย์เนี่ยรวมทั้งหมด 4 เดือน สังเกตดูแม่ว่าอยากกลับบ้านไหมเลยพาแม่กลับบ้านก่อน แต่ก็ยังซื้อคอร์สกายภาพบำบัดต่อพาแม่กลับมาทำด้วย
พิธีกร : หลังจากกลับบ้านไปคุณแม่ก็ขยันในการที่จะฝึกเทคนิคใช่ไหมคะ
คุณอ้อย : กลับไปหรอคะคือตัดสินใจถูกที่ซื้อของคอร์สกลับมาทำกายภาพด้วยเพราะเราก็ไม่ทิ้งตรงนี้ด้วยพอกลับไปบ้านความรู้สึกดีแบบ ชิน สบาย และก็ไม่ค่อยอยากทำแล้ว พอเราพากลับมานี้ก็จะมีคนเหมือนกับนักกายภาพบังคับกันไปในตัว
พิธีกร : ซึ่งพอทำได้ก็เกรงใจนักกายภาพด้วยเป็นแรงผลักดันใหคุณแม่
คุณอ้อย : ต้องให้คนอื่นไปบังคับถ้าลูกบังคับจะไม่ค่อยได้ผล
พิธีกร : จากที่คุณแม่มาที่ KIN คุณแม่ก็ดีขึ้นใช่ไหมคะ
คุณอ้อย : บังเอิญว่าพอกลับไปบ้านได้ไม่กี่วันสายเนี่ยมันก็หลุดด้วยความที่คุณแม่ก้มๆเงยๆ อยากจะลุกอะไรแบบนี้หลุดไปตอนไหนเราก็ไม่รู้พอสายหลุดเนี่ยจะทำยังไงดีซึ่งมันก็ดึกแล้วพรุ่งนี้ต้องกินยาด้วยก็เลยลองป้อนยาผสมกล้วยก็โอเคกินได้เพราะพื้นฐานของคุณแม่ก็คือเริ่มทานได้บ้างแล้วกลืนได้ เคี้ยวได้บ้างแล้วนิดหน่อยก้เลยไม่เป็นปัญหาตรงนั้นแล้วก็พยายามให้ทานอารหารอ่อน ๆ ตอนช่วงเข้ามาแรก ๆ แต่ตอนนี้ทานอาหารที่เป็นแบบข้าวสวยได้
พิธีกร : เยี่ยมมาก พัฒนาดีขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่อยูมา 1 เดือนประทับใจอะไรที่ KIN บ้างคะ ?
คุณอ้อย : ประทับใจอันดับแรกเลยคือ ต้องพูดถึงเรื่องการดูแลทั้งกายภาพและคุณหมอที่ดูแลทางด้านโรคสมองของคุณแม่ด้วยการกระตุ้นกล้ามเนื้อสมองด้วยคลื่นกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้าทั้งสองอย่างที่เป็นสิ่งจูงใจอันแรกที่เรามาแล้วไม่ผิดหวังเพราะว่าเจ้าหน้าที่ทุกท่านดูแลเราดีมาก
พิธีกร : แล้วคิดว่าต้องทำกายภาพต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ไม่ลำบากในการพาคุณแม่มาใช่ไหมคะ?
คุรอ้อย : นิดหน่อยแต่ก็ต้องมาเพื่อให้คุณแม่สามารถพัฒนาได้ดีขึ้นกว่านี้ยังอยากจะให้ขามีแรงมากกว่านี้สามารถทำอะไรถนัดได้มากขึ้นซึ่งตอนนี้สามารถยกแขนขึ้นได้ถึงแม้จะยังไม่ได้เยอะแต่เราก็เห็นว่าก้าวหน้าขึ้น
พิธีกร : อยากฝากอะไรถึงคนที่กำลังเจ็บป่วยแล้วรับการฟื้นฟูเองที่บ้านกับการฟื้นฟูโดยมีนักกายภาพที่ศูนย์ดูแลมีความแตกต่างอย่างไรและมีข้อคิดหรือคำแนะนำไหมคะ?
คุณอ้อย : ถ้าสมมติว่ากลับไปบ้านแล้วคนที่บ้านมีเวลาดูแลยกแข้งยกขาออกกำลังกายให้ผู้ป่วยได้ก็โอเคนะคะ อันนั้นก็เหมาะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะด้วย แต่ถ้าคิดว่าโอเคเรายอมจ่ายเพื่อที่ได้ผลที่มันเร็วขึ้นอะไรอย่างนี้ลองดูนะคะเพราะอันนี้ก็ช่วยได้เยอะ ในช่วงระยะเวลาไม่นานเท่าไหร่คุณแม่ก็ฟื้นฟูเร็วมาก
พิธีกร : ก็จะช่วยลดภาระครอบครัวในการที่จะต้องเป็นภาระครอบครัวคนไข้ก็จะรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า
คุณอ้อย : ต้องลดภาระของคนที่ดูแลด้วยทั้งเรื่องของกำลังแรงกายเราก็ไม่ต้องเหนื่อยมากแล้วก็อีกอย่างเราจะได้มีเวลาทำอย่างอื่นด้วยถ้ามาอยู่กับศูนย์ฟื้นฟูหรือว่านักกายภาพโดยภาพ
พิธีกร : แล้วเขาก็จะได้รับการดูแลที่ถูกต้องตามวิชาการด้วย
คุณอ้อย : ใช่ค่ะ เพราะว่าก็จะมีทั้งพยาบาล หมอ ที่มีความสามารถทางด้านเรามีปัญหาอะไรก็สามารถเรียกได้โดยตรงให้ช่วยดูแลได้
พิธีกร : ขอบคุณที่ไว้วางใจKIN ค่ะ
คุณอ้อย : ขอบคุณที่ดูแลคุณแม่อย่างดีค่ะ










ประสบการณ์ผู้ใช้บริการจริง (Testimonial) อื่นๆ
"ดูแลใกล้ชิดทุกวินาที คือโอกาส การฟื้นตัว ทีมพยาบาลและผู้ช่วยพยาบาลของ Kin Origin คือหัวใจของการฟื้นฟูแบบองค์รวม" รีวิวจากผู้เข้ารับบริการ คุณเจริญวิทย์ EP5

"ธาราบำบัด ลู่วิ่งในน้ำ การฟื้นฟูที่ปลอดภัย และรวดเร็วสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง" รีวิวจากผู้เข้ารับบริการ คุณเจริญวิทย์ EP4

"เป้าหมายการฟื้นฟู ไม่ใช่แค่ฝึกเดิน... แต่ฝึกใช้ชีวิตจริงด้วยการทำกิจกรรมบำบัด" รีวิวจากผู้เข้ารับบริการ คุณเจริญวิทย์ EP3

“สามเดือนแรกหลังออกจากโรงพยาบาล คือช่วงเวลาทองในการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง” รีวิวจากผู้เข้ารับบริการ คุณเจริญวิทย์ EP2
