ระวังโรคติดต่อจากการเล่นน้ำสงกรานต์

ระวังโรคติดต่อจากการเล่นน้ำสงกรานต์

เทศกาลสงกรานต์ เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข สนุกสนาน และการรวมญาติที่หลายคนเฝ้ารอคอย โดยเฉพาะกิจกรรมเล่นน้ำตามถนนหรือพื้นที่สาธารณะ กลายเป็นสีสันของเทศกาลในแบบฉบับไทย อย่างไรก็ตาม ความสนุกเหล่านี้อาจแฝงมาด้วย “ภัยสุขภาพ” ที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะ “โรคติดต่อ” ที่สามารถแพร่กระจายได้ง่ายในช่วงสงกรานต์

ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับโรคติดต่อที่พบบ่อยจากการเล่นน้ำสงกรานต์ พร้อมวิธีป้องกันที่ทุกคนควรตระหนักและปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สงกรานต์เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างแท้จริง

 

 

ทำไมเล่นน้ำถึงเสี่ยงโรคติดต่อ?

การเล่นน้ำสงกรานต์โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีคนแออัด น้ำที่ใช้ไม่สะอาด หรือมีการสาดน้ำใส่กันโดยตรง อาจทำให้เชื้อโรคจากคนหนึ่งแพร่ไปสู่อีกคนได้ง่าย ทั้งทางผิวหนัง ดวงตา จมูก ปาก หรือแม้แต่บาดแผลที่เปิดอยู่

 

โรคติดต่อที่พบบ่อยในช่วงสงกรานต์

1. โรคตาแดง (เยื่อบุตาอักเสบจากไวรัสหรือแบคทีเรีย)

  • สาเหตุ: มักเกิดจากการสัมผัสน้ำที่ไม่สะอาด หรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรค
  • อาการ: ตาแดง คันตา น้ำตาไหล ขี้ตามาก เจ็บหรือระคายเคือง
  • การติดต่อ: โดยการใช้ผ้าเช็ดหน้าร่วมกัน หรือการโดนน้ำจากผู้ที่ติดเชื้อ
  • การป้องกัน:
    • หลีกเลี่ยงเล่นน้ำกับคนแปลกหน้า
    • ไม่สัมผัสตาโดยตรงหลังโดนน้ำ
    • หมั่นล้างมือ และไม่ใช้ผ้าร่วมกับผู้อื่น

 

2. โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือโควิด-19
  • สาเหตุ: การไอ จาม หรือสัมผัสน้ำลายจากผู้ติดเชื้อ
  • อาการ: มีไข้ ปวดหัว น้ำมูกไหล เจ็บคอ อ่อนเพลีย
  • การติดต่อ: ผ่านละอองฝอย น้ำลาย หรือการสัมผัสวัตถุที่ปนเปื้อน
  • การป้องกัน:
    • สวมหน้ากากเมื่ออยู่ในพื้นที่แออัด
    • ล้างมือบ่อย ๆ
    • หลีกเลี่ยงการเล่นน้ำรวมกับกลุ่มคนจำนวนมาก

 

3. โรคผิวหนังจากเชื้อราและแบคทีเรีย
  • สาเหตุ: สภาพอับชื้นจากเสื้อผ้าที่เปียกน้ำตลอดวัน และน้ำที่สกปรก
  • อาการ: ผื่นแดง คัน ลอก ตุ่มน้ำ หรือมีแผลอักเสบ
  • การป้องกัน:
    • รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อเปียกน้ำ
    • ไม่ใส่เสื้อผ้าอับชื้นซ้ำ
    • ทำความสะอาดผิวกายด้วยสบู่หลังกลับจากเล่นน้ำ

 

4. โรคฉี่หนู (เลปโตสไปโรสิส)
  • สาเหตุ: น้ำที่มีเชื้อจากปัสสาวะของสัตว์ เช่น หนู แล้วเข้าสู่ร่างกายทางแผลหรือผิวหนัง
  • อาการ: ไข้สูง ปวดหัว ตาแดง ปวดกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะน่อง
  • การป้องกัน:
    • หลีกเลี่ยงการย่ำน้ำขังหรือแอ่งน้ำสกปรก
    • หากมีบาดแผล ควรปิดแผลให้มิดชิด
    • ล้างเท้าให้สะอาดหลังเล่นน้ำ

 

5. โรคอาหารเป็นพิษ และท้องเสียจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย
  • สาเหตุ: การรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ปนเปื้อน
  • อาการ: คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลว อาจมีไข้ร่วมด้วย
  • การป้องกัน:
    • เลือกกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่และสะอาด
    • หลีกเลี่ยงน้ำแข็งหรืออาหารที่วางขายกลางแดด
    • พกขวดน้ำดื่มส่วนตัว

 

กลุ่มเสี่ยงที่ควรระวังเป็นพิเศษ

  • เด็กเล็ก: ภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง
  • ผู้สูงอายุ: ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงตามวัย
  • ผู้ป่วยโรคประจำตัว: เช่น เบาหวาน ความดัน ภูมิแพ้
  • ผู้มีบาดแผลหรือผิวหนังอักเสบ: เสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย

 

ข้อควรปฏิบัติเพื่อเล่นน้ำสงกรานต์อย่างปลอดภัย

  1. ใช้น้ำสะอาดในการเล่นน้ำเสมอ
  2. ไม่ใช้กระบอกฉีดแรง ๆ ใส่ใบหน้า ผู้อื่นอาจได้รับอันตรายทางตาและหู
  3. ล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะก่อนหยิบอาหารเข้าปาก
  4. ไม่เล่นน้ำร่วมกับคนที่มีอาการป่วย เช่น ไอ จาม หรือมีผื่นขึ้นตามตัว
  5. หลีกเลี่ยงการใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า แว่นตา
  6. หลังเล่นน้ำ ควรอาบน้ำให้สะอาด เปลี่ยนเสื้อผ้า และพักผ่อนให้เพียงพอ

 

แม้สงกรานต์จะเป็นเทศกาลแห่งความสนุกสนานและสายใยครอบครัว แต่อย่าลืมว่า “สุขภาพต้องมาก่อน” การตระหนักถึงความเสี่ยงจากโรคติดต่อและการป้องกันที่ถูกต้อง จะช่วยให้เราสนุกกับเทศกาลนี้ได้อย่างปลอดภัย และมีสุขภาพดีทั้งก่อนและหลังสงกรานต์

 

สอบถามข้อมูล | นัดชมสถานที่

สาขาลาดพร้าว 71

สาขาสุขุมวิท 107

สาขาพัทยา

สาขาราชพฤกษ์

ข่าวสารบทความ อื่นๆ

KIN Rehab