ทำไมการนั่งทำงานนานๆ ถึงทำให้คุณปวดหลัง?
เคยไหม? หลังจากวันทำงานอันยาวนาน คุณลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมความรู้สึกปวดเมื่อยบริเวณหลังหรือเอว แม้ว่าการนั่งดูเหมือนจะเป็นท่าที่สบายที่สุดสำหรับการทำงาน แต่ความจริงแล้ว การนั่งเป็นเวลานานอาจกลายเป็นสาเหตุสำคัญของอาการปวดหลังโดยที่หลายคนคาดไม่ถึง ไม่ว่าคุณจะทำงานในออฟฟิศ หรือทำงานที่บ้าน อาการนี้อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว และลดประสิทธิภาพในการทำงานของคุณได้อย่างมาก
ในบทความนี้ เราจะพาคุณสำรวจว่าเหตุใดการนั่งนานๆ ถึงทำให้คุณปวดหลัง พร้อมทั้งแนะนำวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันปัญหานี้อย่างได้ผล เพื่อให้ทุกชั่วโมงการทำงานของคุณเต็มไปด้วยพลัง และปลอดจากความเมื่อยล้า!
การนั่งทำงานนานๆ สามารถทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ด้วยหลายสาเหตุ ดังนี้
- ท่าทางที่ไม่เหมาะสม: การนั่งในท่าที่ไม่ถูกต้อง เช่น หลังค่อม หรือก้มตัวไปข้างหน้า ทำให้เกิดแรงกดทับบนกระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูก
- การอยู่ในท่าเดิมนานเกินไป: การนั่งนิ่งๆ เป็นเวลานานทำให้กล้ามเนื้อหลังต้องทำงานต่อเนื่องเพื่อรักษาท่าทาง ส่งผลให้เกิดความเมื่อยล้าและปวดเมื่อย
- แรงกดทับบนหมอนรองกระดูก: การนั่งเพิ่มแรงกดทับบนหมอนรองกระดูกบริเวณกระดูกสันหลังส่วนล่าง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดหรือกระตุ้นอาการของโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
- ความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อ: การนั่งนานๆ อาจทำให้กล้ามเนื้อสะโพกตึงและกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวอ่อนแอ ส่งผลต่อท่าทางและเพิ่มแรงกดทับบนหลังส่วนล่าง
- การเปลี่ยนแปลงความโค้งของกระดูกสันหลัง: การนั่งอาจทำให้ความโค้งตามธรรมชาติของกระดูกสันหลังเปลี่ยนไป ส่งผลให้เอ็นยึดและกล้ามเนื้อต้องทำงานหนักขึ้น
- การขาดการเคลื่อนไหว: ร่างกายมนุษย์ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้นั่งนิ่งๆ เป็นเวลานาน การขาดการเคลื่อนไหวทำให้ข้อต่อและเนื้อเยื่อเกิดความตึงเครียด
การลุกขึ้นยืดเหยียดร่างกายทุก 30 นาที การปรับท่านั่งให้ถูกต้อง และการใช้เก้าอี้ที่ออกแบบมาเพื่อสุขภาพ สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดหลังจากการนั่งทำงานนานๆ ได้
การนั่งทำงานนานๆ มีผลต่อสุขภาพในระยะยาวหรือไม่
การนั่งทำงานนานๆ มีผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญ ดังนี้
ผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด
- เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยผู้ที่นั่งนานมีความเสี่ยงสูงกว่าถึง 147%
- การนั่งนานทำให้เลือดไหลเวียนช้าลง เพิ่มโอกาสเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
ผลกระทบต่อระบบเผาผลาญ
- เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ถึง 112%
- ทำให้ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินลดลง นำไปสู่ภาวะดื้อต่ออินซูลิน
ผลกระทบต่อกล้ามเนื้อและกระดูก
- ทำให้กล้ามเนื้อและกระดูกอ่อนแอลง โดยเฉพาะบริเวณหลัง สะโพก และขา
- เพิ่มความเสี่ยงต่อการปวดหลังเรื้อรัง
ผลกระทบต่อสมองและระบบประสาท
- เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อม
- ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล
ผลกระทบต่อความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง
- เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปอด และมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
การนั่งทำงานนานๆ จึงส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวอย่างมาก ควรหมั่นลุกเดิน ยืดเหยียดร่างกาย และออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว
การเปลี่ยนตำแหน่งนั่งบ่อยๆ สามารถช่วยลดอาการปวดหลังได้หรือไม่
การเปลี่ยนตำแหน่งนั่งบ่อยๆ สามารถช่วยลดอาการปวดหลังได้ เนื่องจาก
- ช่วยลดความเครียดของกล้ามเนื้อ: การอยู่ในท่าเดิมนานๆ ทำให้กล้ามเนื้อเกิดความเครียดและล้า การเปลี่ยนท่าช่วยให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย
- ลดแรงกดทับบนหมอนรองกระดูก: การเปลี่ยนท่านั่งช่วยกระจายแรงกดทับไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย ลดความเสี่ยงต่อปัญหาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
- ปรับปรุงการไหลเวียนเลือด: การขยับร่างกายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการปวดเมื่อยจากการนั่งนาน
- ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ: การเปลี่ยนท่าทางบ่อยๆ ช่วยลดโอกาสเกิดการบาดเจ็บจากการใช้งานกล้ามเนื้อและข้อต่อในท่าเดิมนานเกินไป
- ช่วยรักษาความโค้งตามธรรมชาติของกระดูกสันหลัง: การเปลี่ยนท่านั่งช่วยให้กระดูกสันหลังไม่อยู่ในท่าที่ผิดธรรมชาตินานเกินไป
ดังนั้น การหมั่นเปลี่ยนท่านั่ง ลุกเดิน หรือยืดเหยียดร่างกายทุก 30-60 นาที จะช่วยลดอาการปวดหลังจากการนั่งทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้เก้าอี้ที่เหมาะสมสามารถช่วยลดอาการปวดหลังได้หรือไม่
การใช้เก้าอี้ที่เหมาะสมสามารถช่วยลดอาการปวดหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเก้าอี้ที่ออกแบบตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomics) จะช่วยรองรับสรีระร่างกายและส่งเสริมท่านั่งที่ถูกต้อง ซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพหลังดังนี้
- รองรับหลังส่วนล่าง: เก้าอี้ที่มี Lumbar support ช่วยรองรับส่วนโค้งของกระดูกสันหลังส่วนล่าง ลดแรงกดทับและความตึงของกล้ามเนื้อหลัง
- ปรับท่านั่งให้เหมาะสม: เก้าอี้ที่ปรับระดับได้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับท่านั่งให้เหมาะกับสรีระของตนเอง ทำให้นั่งในท่าที่ถูกต้องและลดความเครียดของกล้ามเนื้อ
- กระจายน้ำหนัก: เบาะนั่งที่ออกแบบอย่างเหมาะสมช่วยกระจายน้ำหนักตัว ลดแรงกดทับบริเวณก้นกบและหลังส่วนล่าง
- ส่งเสริมการเคลื่อนไหว: เก้าอี้ที่ปรับเอนได้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนอิริยาบถระหว่างวัน ลดการอยู่ในท่าเดิมนานเกินไป
- รองรับส่วนต่างๆ ของร่างกาย: เก้าอี้ที่มีที่พักแขนและพนักพิงศีรษะช่วยลดความเครียดของกล้ามเนื้อคอ บ่า และไหล่
การเลือกใช้เก้าอี้ที่เหมาะสมร่วมกับการปรับท่านั่งให้ถูกต้องตามหลัก Ergonomics จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดหลังและปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนั่งทำงานเป็นเวลานานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีวิธีการป้องกันการปวดหลังจากการนั่งทำงานนานๆ ได้อย่างไร
มีหลายวิธีที่สามารถช่วยป้องกันอาการปวดหลังจากการนั่งทำงานนานๆ ได้ ดังนี้
- ลุกขึ้นยืนและเดินทุก 15-30 นาที
- ยืดเหยียดร่างกายเป็นระยะ โดยเฉพาะบริเวณคอ บ่า และหลัง
- นั่งหลังตรง ให้หลังชิดพนักพิงเก้าอี้
- ปรับความสูงของเก้าอี้ให้เข่าอยู่ระดับเดียวกับหรือต่ำกว่าสะโพกเล็กน้อย
- วางเท้าราบกับพื้น หากเก้าอี้สูงเกินไปให้ใช้ที่พักเท้า
- วางจอคอมพิวเตอร์ให้ขอบบนอยู่ระดับสายตา และห่างจากตัวประมาณหนึ่งช่วงแขน
- วางคีย์บอร์ดและเมาส์ให้ใกล้ตัว เพื่อไม่ต้องเอื้อมไกล
- ใช้เก้าอี้ที่มีพนักพิงรองรับหลังส่วนล่าง (lumbar support)
- ใช้หมอนรองหลังหากเก้าอี้ไม่มีการรองรับที่เพียงพอ
- เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังและแกนกลางลำตัว
- ทำท่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อเป็นประจำ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม
- จัดการความเครียด
การปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดหลังจากการนั่งทำงานนานๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ