ทำไมการนั่งทำงานนานๆ ถึงทำให้คุณปวดหลัง?

ทำไมการนั่งทำงานนานๆ ถึงทำให้คุณปวดหลัง?

เคยไหม? หลังจากวันทำงานอันยาวนาน คุณลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมความรู้สึกปวดเมื่อยบริเวณหลังหรือเอว แม้ว่าการนั่งดูเหมือนจะเป็นท่าที่สบายที่สุดสำหรับการทำงาน แต่ความจริงแล้ว การนั่งเป็นเวลานานอาจกลายเป็นสาเหตุสำคัญของอาการปวดหลังโดยที่หลายคนคาดไม่ถึง ไม่ว่าคุณจะทำงานในออฟฟิศ หรือทำงานที่บ้าน อาการนี้อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว และลดประสิทธิภาพในการทำงานของคุณได้อย่างมาก

ในบทความนี้ เราจะพาคุณสำรวจว่าเหตุใดการนั่งนานๆ ถึงทำให้คุณปวดหลัง พร้อมทั้งแนะนำวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันปัญหานี้อย่างได้ผล เพื่อให้ทุกชั่วโมงการทำงานของคุณเต็มไปด้วยพลัง และปลอดจากความเมื่อยล้า!


การนั่งทำงานนานๆ สามารถทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ด้วยหลายสาเหตุ ดังนี้

  1. ท่าทางที่ไม่เหมาะสม: การนั่งในท่าที่ไม่ถูกต้อง เช่น หลังค่อม หรือก้มตัวไปข้างหน้า ทำให้เกิดแรงกดทับบนกระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูก
  2. การอยู่ในท่าเดิมนานเกินไป: การนั่งนิ่งๆ เป็นเวลานานทำให้กล้ามเนื้อหลังต้องทำงานต่อเนื่องเพื่อรักษาท่าทาง ส่งผลให้เกิดความเมื่อยล้าและปวดเมื่อย
  3. แรงกดทับบนหมอนรองกระดูก: การนั่งเพิ่มแรงกดทับบนหมอนรองกระดูกบริเวณกระดูกสันหลังส่วนล่าง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดหรือกระตุ้นอาการของโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
  4. ความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อ: การนั่งนานๆ อาจทำให้กล้ามเนื้อสะโพกตึงและกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวอ่อนแอ ส่งผลต่อท่าทางและเพิ่มแรงกดทับบนหลังส่วนล่าง
  5. การเปลี่ยนแปลงความโค้งของกระดูกสันหลัง: การนั่งอาจทำให้ความโค้งตามธรรมชาติของกระดูกสันหลังเปลี่ยนไป ส่งผลให้เอ็นยึดและกล้ามเนื้อต้องทำงานหนักขึ้น
  6. การขาดการเคลื่อนไหว: ร่างกายมนุษย์ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้นั่งนิ่งๆ เป็นเวลานาน การขาดการเคลื่อนไหวทำให้ข้อต่อและเนื้อเยื่อเกิดความตึงเครียด

การลุกขึ้นยืดเหยียดร่างกายทุก 30 นาที การปรับท่านั่งให้ถูกต้อง และการใช้เก้าอี้ที่ออกแบบมาเพื่อสุขภาพ สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดหลังจากการนั่งทำงานนานๆ ได้




การนั่งทำงานนานๆ มีผลต่อสุขภาพในระยะยาวหรือไม่

การนั่งทำงานนานๆ มีผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญ ดังนี้

ผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด

- เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยผู้ที่นั่งนานมีความเสี่ยงสูงกว่าถึง 147%

- การนั่งนานทำให้เลือดไหลเวียนช้าลง เพิ่มโอกาสเกิดลิ่มเลือดอุดตัน

ผลกระทบต่อระบบเผาผลาญ

- เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ถึง 112%

- ทำให้ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินลดลง นำไปสู่ภาวะดื้อต่ออินซูลิน

ผลกระทบต่อกล้ามเนื้อและกระดูก

- ทำให้กล้ามเนื้อและกระดูกอ่อนแอลง โดยเฉพาะบริเวณหลัง สะโพก และขา

- เพิ่มความเสี่ยงต่อการปวดหลังเรื้อรัง

ผลกระทบต่อสมองและระบบประสาท

- เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อม

- ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล

ผลกระทบต่อความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง

- เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปอด และมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก


การนั่งทำงานนานๆ จึงส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวอย่างมาก ควรหมั่นลุกเดิน ยืดเหยียดร่างกาย และออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว



การเปลี่ยนตำแหน่งนั่งบ่อยๆ สามารถช่วยลดอาการปวดหลังได้หรือไม่

การเปลี่ยนตำแหน่งนั่งบ่อยๆ สามารถช่วยลดอาการปวดหลังได้ เนื่องจาก

  1. ช่วยลดความเครียดของกล้ามเนื้อ: การอยู่ในท่าเดิมนานๆ ทำให้กล้ามเนื้อเกิดความเครียดและล้า การเปลี่ยนท่าช่วยให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย
  2. ลดแรงกดทับบนหมอนรองกระดูก: การเปลี่ยนท่านั่งช่วยกระจายแรงกดทับไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย ลดความเสี่ยงต่อปัญหาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
  3. ปรับปรุงการไหลเวียนเลือด: การขยับร่างกายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการปวดเมื่อยจากการนั่งนาน
  4. ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ: การเปลี่ยนท่าทางบ่อยๆ ช่วยลดโอกาสเกิดการบาดเจ็บจากการใช้งานกล้ามเนื้อและข้อต่อในท่าเดิมนานเกินไป
  5. ช่วยรักษาความโค้งตามธรรมชาติของกระดูกสันหลัง: การเปลี่ยนท่านั่งช่วยให้กระดูกสันหลังไม่อยู่ในท่าที่ผิดธรรมชาตินานเกินไป

ดังนั้น การหมั่นเปลี่ยนท่านั่ง ลุกเดิน หรือยืดเหยียดร่างกายทุก 30-60 นาที จะช่วยลดอาการปวดหลังจากการนั่งทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ




การใช้เก้าอี้ที่เหมาะสมสามารถช่วยลดอาการปวดหลังได้หรือไม่

การใช้เก้าอี้ที่เหมาะสมสามารถช่วยลดอาการปวดหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเก้าอี้ที่ออกแบบตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomics) จะช่วยรองรับสรีระร่างกายและส่งเสริมท่านั่งที่ถูกต้อง ซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพหลังดังนี้


  1. รองรับหลังส่วนล่าง: เก้าอี้ที่มี Lumbar support ช่วยรองรับส่วนโค้งของกระดูกสันหลังส่วนล่าง ลดแรงกดทับและความตึงของกล้ามเนื้อหลัง
  2. ปรับท่านั่งให้เหมาะสม: เก้าอี้ที่ปรับระดับได้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับท่านั่งให้เหมาะกับสรีระของตนเอง ทำให้นั่งในท่าที่ถูกต้องและลดความเครียดของกล้ามเนื้อ
  3. กระจายน้ำหนัก: เบาะนั่งที่ออกแบบอย่างเหมาะสมช่วยกระจายน้ำหนักตัว ลดแรงกดทับบริเวณก้นกบและหลังส่วนล่าง
  4. ส่งเสริมการเคลื่อนไหว: เก้าอี้ที่ปรับเอนได้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนอิริยาบถระหว่างวัน ลดการอยู่ในท่าเดิมนานเกินไป
  5. รองรับส่วนต่างๆ ของร่างกาย: เก้าอี้ที่มีที่พักแขนและพนักพิงศีรษะช่วยลดความเครียดของกล้ามเนื้อคอ บ่า และไหล่

การเลือกใช้เก้าอี้ที่เหมาะสมร่วมกับการปรับท่านั่งให้ถูกต้องตามหลัก Ergonomics จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดหลังและปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนั่งทำงานเป็นเวลานานได้อย่างมีประสิทธิภาพ


มีวิธีการป้องกันการปวดหลังจากการนั่งทำงานนานๆ ได้อย่างไร

มีหลายวิธีที่สามารถช่วยป้องกันอาการปวดหลังจากการนั่งทำงานนานๆ ได้ ดังนี้

1. เปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ

   - ลุกขึ้นยืนและเดินทุก 15-30 นาที

   - ยืดเหยียดร่างกายเป็นระยะ โดยเฉพาะบริเวณคอ บ่า และหลัง

2. จัดท่านั่งให้ถูกต้อง

   - นั่งหลังตรง ให้หลังชิดพนักพิงเก้าอี้

   - ปรับความสูงของเก้าอี้ให้เข่าอยู่ระดับเดียวกับหรือต่ำกว่าสะโพกเล็กน้อย

   - วางเท้าราบกับพื้น หากเก้าอี้สูงเกินไปให้ใช้ที่พักเท้า

3. จัดตำแหน่งอุปกรณ์ให้เหมาะสม

   - วางจอคอมพิวเตอร์ให้ขอบบนอยู่ระดับสายตา และห่างจากตัวประมาณหนึ่งช่วงแขน

   - วางคีย์บอร์ดและเมาส์ให้ใกล้ตัว เพื่อไม่ต้องเอื้อมไกล

4. ใช้อุปกรณ์เสริม

   - ใช้เก้าอี้ที่มีพนักพิงรองรับหลังส่วนล่าง (lumbar support)

   - ใช้หมอนรองหลังหากเก้าอี้ไม่มีการรองรับที่เพียงพอ



5. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

   - เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังและแกนกลางลำตัว

   - ทำท่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อเป็นประจำ

6. ดูแลสุขภาพโดยรวม

   - นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

   - รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม

   - จัดการความเครียด


การปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดหลังจากการนั่งทำงานนานๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สอบถามข้อมูล | นัดชมสถานที่

สาขาลาดพร้าว 71

สาขาสุขุมวิท 107

สาขาพัทยา

สาขาราชพฤกษ์

ข่าวสารบทความ อื่นๆ

KIN Rehab