7 ท่ายืด เทคนิคการยืดขณะทำงาน

7 ท่ายืด เทคนิคการยืดขณะทำงาน

การนั่งทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานานส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างมาก อาจทำให้เกิดอาการเมื่อยล้ากล้ามเนื้อ ปวดหลัง ไหล่ติด และความเครียดสะสม ดังนั้นการยืดเส้นขณะนั่งทำงานจะช่วยลดความเมื่อยล้าและช่วยปรับสมดุลของร่างกาย บทความนี้จะแนะนำเทคนิคการยืดเส้นที่สามารถทำได้ขณะนั่ง เพื่อให้เหมาะสมกับคนทำงานในออฟฟิศหรือที่บ้าน

ทำไมการยืดเส้นขณะนั่งทำงานจึงสำคัญ?

การนั่งทำงานนาน ๆ ทำให้กล้ามเนื้อแข็งตึง และส่งผลให้มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยเฉพาะในบริเวณหลัง คอ บ่า ไหล่ และสะโพก การยืดกล้ามเนื้อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายและลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาว

ท่ายืดที่แนะนำสำหรับคนทำงานนั่งนาน



  • ท่ายืดคอ
  • นั่งให้หลังตรง เอนศีรษะไปทางขวาช้า ๆ ใช้มือขวาประคองศีรษะเบา ๆ จนรู้สึกตึงที่ด้านซ้าย
  • ค้างไว้ 15-20 วินาทีแล้วสลับข้าง ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง
  • ท่านี้ช่วยบรรเทาความตึงของกล้ามเนื้อคอ และเหมาะกับผู้ที่นั่งทำงานนาน ๆ โดยเฉพาะคนที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์
  • ท่ายืดไหล่และแขน
  • นั่งให้หลังตรง ยกแขนขวาขึ้นและวางมือขวาไว้ที่ไหล่ซ้าย
  • ใช้มือซ้ายดันศอกขวาเข้าหาตัวเล็กน้อย ค้างไว้ 15-20 วินาที สลับข้างแล้วทำซ้ำ
  • ท่านี้ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อไหล่และลดความเสี่ยงของภาวะไหล่ติดได้
  • ท่ายืดหลังส่วนล่าง
  • นั่งให้หลังตรง กางขาออกพอประมาณ
  • ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะแล้วเอียงตัวไปข้างซ้ายจนรู้สึกตึงบริเวณหลังด้านขวา
  • ค้างไว้ 15-20 วินาที ทำสลับข้าง ช่วยยืดกล้ามเนื้อหลังและสะโพก ลดอาการปวดหลังจากการนั่งนาน ๆ
  • ท่ายืดสะโพก
  • นั่งหลังตรง วางข้อเท้าขวาไว้ที่เข่าซ้าย ใช้มือทั้งสองกดลงเบา ๆ
  • ค้างไว้ 15-20 วินาที ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง สลับข้าง ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อสะโพกและลดความตึงจากการนั่ง
  • ท่ายืดขาและข้อเท้า
  • ยกขาขวาขึ้นวางบนเข่าซ้าย ใช้มือจับข้อเท้าขวาแล้วหมุนเป็นวงกลม 10-15 ครั้ง สลับข้าง
  • ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตในขา ลดอาการขาบวมและเมื่อยล้าของขา
  • ท่ายืดข้อมือและแขนท่อนล่าง
  • ยกแขนขึ้นไปด้านหน้าในระดับไหล่ ให้ฝ่ามือหันออกด้านหน้า
  • ใช้มืออีกข้างจับฝ่ามือที่ยกขึ้นแล้วดึงเบา ๆ เข้าหาตัว ค้างไว้ 10-15 วินาที แล้วสลับข้าง
  • ท่านี้ช่วยบรรเทาความเมื่อยล้าที่ข้อมือและแขน เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์หรือทำงานเขียนเป็นเวลานาน
  • ท่ายืดสะบักและหลังส่วนบน
  • ประสานมือที่ด้านหน้า ยืดแขนออกให้ตึง ขณะเดียวกันให้ก้มศีรษะลงเล็กน้อย
  • ค้างไว้ 15-20 วินาที ท่านี้จะช่วยยืดสะบักและลดความตึงที่หลังส่วนบนได้ดี
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาออฟฟิศซินโดรมหรือนั่งหลังค่อมบ่อย ๆ

เทคนิคการจัดพื้นที่ทำงานเพื่อป้องกันอาการเมื่อยล้า



การจัดตำแหน่งของเก้าอี้ โต๊ะ และอุปกรณ์ในพื้นที่ทำงานให้ถูกต้องจะช่วยป้องกันอาการเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อและส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว โดยมีข้อแนะนำดังนี้:

  • จัดระดับเก้าอี้ให้เหมาะสม: เก้าอี้ควรปรับให้ระดับขนานกับโต๊ะทำงาน โดยเท้าควรสัมผัสพื้นเต็มที่ เข่าอยู่ระดับต่ำกว่าสะโพกเล็กน้อย จะช่วยลดแรงกดทับบริเวณสะโพกและหลังส่วนล่างได้ดี
  • หน้าจอคอมพิวเตอร์ควรอยู่ระดับสายตา: วางหน้าจอให้ระดับบนสุดของจออยู่ประมาณระดับสายตาหรือต่ำกว่าสายตาเล็กน้อย เพื่อลดการก้มศีรษะและป้องกันความตึงที่คอและไหล่
  • จัดวางแป้นพิมพ์และเมาส์ให้ถูกตำแหน่ง: ควรวางแป้นพิมพ์ให้แขนสามารถวางขนานกับพื้นได้ และให้มุมข้อศอกอยู่ประมาณ 90 องศา จะช่วยลดอาการเจ็บข้อมือและแขนท่อนล่าง

ประโยชน์ของการยืดเส้นและการดูแลตนเองขณะทำงานนั่ง

การยืดเส้นและการดูแลตนเองขณะนั่งทำงานไม่เพียงแต่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายจากความตึงของกล้ามเนื้อ แต่ยังมีประโยชน์อื่น ๆ ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคต่าง ๆ ดังนี้:

  • 0ลดโอกาสการเกิดโรคออฟฟิศซินโดรม: โดยเฉพาะอาการปวดคอ ปวดไหล่ ปวดหลัง ซึ่งมักเกิดจากการนั่งทำงานนาน ๆ และการใช้คอมพิวเตอร์
  • ลดการเกิดเส้นเลือดขอด: การนั่งนิ่งนาน ๆ โดยไม่ได้เคลื่อนไหวทำให้การไหลเวียนของเลือดในขาต่ำลง ซึ่งสามารถทำให้เกิดเส้นเลือดขอดได้ การยืดเส้นและขยับตัวบ่อย ๆ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
  • เพิ่มสมาธิและความสดชื่น: การหยุดพักเพียง 1-2 นาทีเพื่อยืดเส้น ช่วยให้สมองและร่างกายได้ผ่อนคลาย ทำให้มีสมาธิมากขึ้นและลดอาการง่วงนอนได้
  • ปรับสมดุลของร่างกาย: การยืดเส้นในท่านั่งช่วยรักษาความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและข้อต่อ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายมีสมดุลมากขึ้นและสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการดูแลสุขภาพขณะทำงานในท่านั่ง



นอกจากการยืดเส้นแล้ว ควรพิจารณาปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้เพื่อดูแลสุขภาพขณะทำงาน

  1. การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ
    การดื่มน้ำช่วยให้ร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยลดความเครียด การดื่มน้ำเป็นระยะ ๆ ระหว่างการทำงานนอกจากจะช่วยให้สดชื่นแล้ว ยังช่วยบรรเทาอาการปวดหัวที่เกิดจากการขาดน้ำ
  2. เพิ่มการเคลื่อนไหวร่างกายทุก 1 ชั่วโมง
    การลุกขึ้นเดินหรือยืดเส้นทุก ๆ 1 ชั่วโมงช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อตึง และลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนล้าหรือปวดเมื่อยเรื้อรัง
  3. เลือกใช้เก้าอี้ที่มีพนักพิงที่เหมาะสม
    ควรเลือกเก้าอี้ที่มีพนักพิงหลังและสามารถปรับระดับได้ การมีพนักพิงจะช่วยให้หลังส่วนล่างได้รับการรองรับ และช่วยลดความตึงของกล้ามเนื้อหลัง
  4. การใช้แว่นกรองแสง
    การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ ทำให้ดวงตาเสี่ยงต่อความเสียหายจากแสงสีฟ้า การใช้แว่นกรองแสงสามารถช่วยลดอาการตาล้าหรือปวดตาได้

ปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการนั่งทำงานนานโดยไม่ยืดเส้น

การนั่งทำงานต่อเนื่องนาน ๆ โดยไม่พักยืดเส้นอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ได้ ซึ่งรวมถึง:

  • อาการปวดหลังเรื้อรัง: การนั่งทำงานโดยไม่เปลี่ยนท่าทางหรือยืดเส้นทำให้กล้ามเนื้อหลังตึงเครียด ซึ่งอาจนำไปสู่อาการปวดหลังเรื้อรังในระยะยาวได้
  • ปัญหาเส้นประสาท: การนั่งนาน ๆ อาจทำให้เกิดการกดทับของเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับขาและสะโพก เช่น เส้นประสาทไซอาติก ซึ่งอาจทำให้รู้สึกชาหรือเจ็บบริเวณขาและสะโพก
  • อาการตาล้าและปวดศีรษะ: การเพ่งมองหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานทำให้ดวงตาต้องทำงานหนัก จึงอาจเกิดอาการตาล้าและปวดศีรษะ การพักสายตาและยืดเส้นกล้ามเนื้อรอบดวงตาจะช่วยลดความเสี่ยงของอาการเหล่านี้ได้

สรุปและคำแนะนำในการดูแลสุขภาพขณะทำงาน

การดูแลสุขภาพขณะทำงานมีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันปัญหาสุขภาพในระยะยาว การทำท่ายืดเส้นขณะนั่งทำงานจะช่วยลดอาการเมื่อยล้า เพิ่มสมาธิ และส่งเสริมสุขภาพโดยรวม การจัดพื้นที่ทำงานให้เหมาะสม การพักยืดเส้น และการดื่มน้ำเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติเพื่อการทำงานอย่างมีสุขภาพดี

 



สอบถามข้อมูล | นัดชมสถานที่

สาขาลาดพร้าว 71

สาขาสุขุมวิท 107

สาขาพัทยา

สาขาราชพฤกษ์

ข่าวสารบทความ อื่นๆ

KIN Rehab