การฟื้นฟูหลังผ่าตัดสะโพก

การฟื้นฟูหลังผ่าตัดสะโพก

การฟื้นฟูหลังผ่าตัดสะโพกเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้คุณกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม โปรแกรมการเดินฟื้นฟูหลังผ่าตัดกระดูกสะโพก เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง และยืดหยุ่นขึ้น

1. การประเมินอาการ

หลังผ่าตัด หมอจะตรวจดูว่าคุณเป็นอย่างไรบ้าง โดยจะดู 3 อย่างหลักๆ

- ความเจ็บปวด: หมอจะถามว่าคุณเจ็บมากแค่ไหน เช่น ให้คะแนนจาก 1-10 ถ้าเจ็บมาก หมออาจให้ยาแก้ปวดเพิ่ม
- การเคลื่อนไหว: หมอจะให้คุณลองขยับสะโพก เช่น ยกขาขึ้นเบาๆ เพื่อดูว่าขยับได้ดีแค่ไหน
- ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ: หมอจะทดสอบว่ากล้ามเนื้อสะโพก และขาของคุณแข็งแรงพอหรือยัง เช่น ให้คุณเกร็งกล้ามเนื้อต้านแรงมือหมอ




2. โปรแกรมการฟื้นฟูหลังผ่าตัดกระดูกสะโพก

การฟื้นฟู

2.1 ขั้นตอนการฟื้นฟู

  ช่วงแรก (0-2 สัปดาห์หลังผ่าตัด)
  - ลดอาการบวม และความเจ็บปวด เช่น ประคบเย็น
  - ฝึกขยับขาเบาๆ เช่น งอเข่าเล็กน้อย
  - ทำกายภาพแบบนุ่มนวล เช่น ยืดกล้ามเนื้อเบาๆ

  ช่วงกลาง (2-6 สัปดาห์หลังผ่าตัด)
  - เริ่มออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรง เช่น ยกขาขึ้นลงเบาๆ
  - ฝึกเดินในน้ำ ซึ่งจะช่วยลดแรงกระแทกที่สะโพก

  ช่วงท้าย (6 สัปดาห์ - 3 เดือนหลังผ่าตัด)
  - ฝึกเดินบนพื้นต่างๆ เช่น พื้นเรียบ พื้นหญ้า
  - ทำกายภาพที่เข้มข้นขึ้น เช่น ฝึกเดินขึ้นลงบันได



2.2 การฝึกทักษะการเดิน
  - เดินโดยใช้อุปกรณ์ช่วย: เริ่มจากใช้ไม้เท้าหรือที่เดินสี่ขาเพื่อช่วยพยุงตัว
  - เดินในน้ำ: ฝึกเดินในสระน้ำ น้ำจะช่วยพยุงตัวและลดแรงกระแทก
  - เดินในที่เปิด: ฝึกเดินในสวนหรือสนามกีฬาเพื่อเพิ่มความมั่นใจ


3. การทดสอบก่อนกลับสู่ชีวิตปกติ

ก่อนที่คุณจะกลับไปใช้ชีวิตปกติ หมอจะทดสอบดังนี้
  - ทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ: เช่น ให้คุณยืนขาเดียว
  - ทดสอบการเคลื่อนไหว: เช่น ให้คุณเดินเร็วๆ หรือเดินถอยหลัง
  - ประเมินการเดิน: ดูว่าคุณเดินได้ปกติหรือยังมีอาการผิดปกติ



4. เครื่องมือที่ช่วยในการฟื้นฟู

  - เครื่องออกกำลังกายลู่วิ่งในน้ำ (Aquatic Treadmill): เหมือนเดินบนลู่วิ่งปกติ แต่อยู่ในน้ำ ช่วยลดแรงกระแทกและเพิ่มความแข็งแรง
  - การฝังเข็มแผนจีน: ช่วยลดปวดและบวม โดยแพทย์จะใช้เข็มเล็กๆ แทงตามจุดต่างๆ บนร่างกาย

การฟื้นฟูต้องใช้เวลาและความอดทน แต่ถ้าทำตามขั้นตอนอย่างดี คุณจะกลับมาแข็งแรงและใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม อย่าลืมปรึกษาหมอหรือนักกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยที่สุด


5. ตัวอย่างท่าออกกำลังกายง่ายๆ ที่ทำได้ที่บ้าน

หลังจากที่คุณกลับบ้าน คุณสามารถทำท่าออกกำลังกายง่ายๆ เหล่านี้ได้ (ควรปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดก่อนเริ่มทำ)

- การเกร็งก้น
  - นอนหงายบนเตียง
  - เกร็งกล้ามเนื้อก้นค้างไว้ 5 วินาที แล้วปล่อย
  - ทำซ้ำ 10 ครั้ง
- การงอเข่า
  - นอนหงาย
  - ค่อยๆ งอเข่าข้างที่ผ่าตัด โดยให้เท้าเลื่อนไปบนเตียง
  - เหยียดขากลับ
  - ทำซ้ำ 10 ครั้ง
- การยกขาตรง
  - นอนหงาย
  - เกร็งกล้ามเนื้อต้นขา
  - ยกขาขึ้นประมาณ 15 ซม. จากเตียง ค้างไว้ 5 วินาที
  - ค่อยๆ วางขาลง
  - ทำซ้ำ 10 ครั้ง

6. การดูแลตัวเองที่บ้าน



การจัดบ้านให้ปลอดภัย
  - เก็บสายไฟหรือสิ่งกีดขวางออกจากทางเดิน
  - ติดราวจับในห้องน้ำ
  - วางของใช้ที่จำเป็นในระดับที่หยิบได้ง่าย


 การใช้ชีวิตประจำวัน
  - ใช้เก้าอี้สูงเมื่อนั่งรับประทานอาหาร
  - ใช้ที่นั่งเสริมบนโถส้วม
  - ใช้ไม้คีบหยิบของเพื่อหลีกเลี่ยงการก้มตัว


การดูแลแผล
  - ทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์
  - สังเกตอาการผิดปกติ เช่น บวมแดง มีหนอง หรือมีไข้


7. กิจกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงแรก

  - การนั่งไขว่ห้าง
  - การก้มตัวมากเกินไป
  - การยกของหนัก
  - การหมุนตัวอย่างรวดเร็ว
  - การเล่นกีฬาที่มีการกระแทกรุนแรง เช่น วิ่ง กระโดด




8. เป้าหมายการฟื้นฟูในแต่ละช่วง

  1 เดือนแรก

   - เดินโดยใช้อุปกรณ์ช่วยได้

   - ทำกิจวัตรประจำวันพื้นฐานได้ เช่น อาบน้ำ แต่งตัว


  1-3 เดือน

   - เดินได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วย

   - ขึ้นลงบันไดได้

   - ทำงานบ้านเบาๆ ได้


  3-6 เดือน

   - กลับไปทำงานได้ (สำหรับงานนั่งโต๊ะ)

   - ขับรถได้

   - เริ่มออกกำลังกายเบาๆ เช่น ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน


  6 เดือนขึ้นไป

   - กลับไปทำกิจกรรมปกติได้เกือบทั้งหมด

   - เล่นกีฬาที่ไม่หนักมากได้ เช่น กอล์ฟ




เป้าหมายการฟื้นฟูหลังผ่าตัดสะโพก

  section 1 เดือนแรก

   - เดินโดยใช้อุปกรณ์ช่วย
  - ทำกิจวัตรประจำวันพื้นฐาน


  section 1-3 เดือน

   - เดินได้โดยไม่ใช้อุปกรณ์ช่วย
  - ขึ้นลงบันไดได้
  - ทำงานบ้านเบาๆ


  section 3-6 เดือน

   - กลับไปทำงานนั่งโต๊ะ
  - ขับรถได้
  - ออกกำลังกายเบาๆ


  section 6 เดือนขึ้นไป

   - ทำกิจกรรมปกติได้เกือบทั้งหมด
  - เล่นกีฬาที่ไม่หนักมาก


การฟื้นฟูหลังผ่าตัดสะโพกเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลา และความอดทน แต่ด้วยการดูแลที่ถูกต้องและการทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด คุณจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม อย่าลืมว่าทุกคนฟื้นตัวด้วยความเร็วที่แตกต่างกัน ดังนั้นอย่าเปรียบเทียบกับคนอื่น แต่ให้มุ่งเน้นที่ความก้าวหน้าของตัวเอง


หากมีอาการผิดปกติใดๆ เช่น ปวดรุนแรง บวมมาก หรือมีไข้ ควรปรึกษาแพทย์ทันที การพูดคุยกับครอบครัวหรือเพื่อนๆ เพื่อขอกำลังใจและความช่วยเหลือก็เป็นสิ่งสำคัญในช่วงนี้เช่นกัน


9. อาหารที่ควรรับประทานเพื่อช่วยในการฟื้นฟู



อาหารที่มีโปรตีนสูง
  - ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อ
  - ตัวอย่าง: ไข่, เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน, ปลา, ถั่ว

อาหารที่มีแคลเซียม และวิตามินดี
  - ช่วยเสริมสร้างกระดูก
  - ตัวอย่าง: นม, โยเกิร์ต, ปลาซาร์ดีน, ผักใบเขียว

ผัก และผลไม้
  - อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น
  - ช่วยต้านการอักเสบ

อาหารที่มีธาตุเหล็ก
  - ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจาง
  - ตัวอย่าง: เนื้อแดง, ถั่ว, ผักใบเขียวเข้ม

น้ำ
  - ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยในการขับถ่ายและป้องกันภาวะท้องผูก


10. การจัดการความเครียด และสุขภาพจิต



การทำสมาธิ
  - ฝึกหายใจลึกๆ วันละ 10-15 นาที
  - ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล

การพูดคุยกับคนใกล้ชิด
  - แบ่งปันความรู้สึกกับครอบครัวหรือเพื่อน
  - อย่าเก็บความกังวลไว้คนเดียว

การทำกิจกรรมที่ชอบ
  - อ่านหนังสือ, ฟังเพลง, หรือทำงานอดิเรก
  - ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข

การเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุน
  - พบปะพูดคุยกับผู้ที่เคยผ่านการผ่าตัดแบบเดียวกัน
  - แลกเปลี่ยนประสบการณ์และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน


11. การกลับไปทำงาน

ปรึกษาแพทย์
  - ขอคำแนะนำเกี่ยวกับเวลาที่เหมาะสมในการกลับไปทำงาน

การปรับสภาพแวดล้อมการทำงาน
  - ใช้เก้าอี้ที่ให้การรองรับหลังที่ดี
  - ปรับความสูงของโต๊ะทำงานให้เหมาะสม

การทำงานแบบยืดหยุ่น
  - อาจเริ่มจากการทำงานพาร์ทไทม์ก่อน
  - ขอทำงานจากบ้านบางวันถ้าเป็นไปได้

การพักเป็นระยะ
  - ลุกเดินหรือยืดเหยียดร่างกายทุก 1-2 ชั่วโมง


12. การดูแลระยะยาว



การตรวจสุขภาพประจำปี
  - พบแพทย์เพื่อตรวจสอบสภาพข้อสะโพกอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง
  - รักษาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบสะโพก
  - เลือกกิจกรรมที่ไม่กระทบกระเทือนข้อมาก เช่น ว่ายน้ำ, โยคะเบาๆ

การควบคุมน้ำหนัก
  - รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
  - ลดแรงกดทับบนข้อสะโพก

การใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง
  - หลีกเลี่ยงการยกของหนัก
  - ระวังการลื่นล้ม โดยเฉพาะบนพื้นเปียก


การฟื้นฟู และการดูแลตนเองหลังผ่าตัดสะโพกเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลา และความอดทน แต่ด้วยการดูแลที่ถูกต้อง และการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด คุณจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ สิ่งสำคัญคือการรับฟังร่างกายของตัวเอง อย่าฝืนทำอะไรที่รู้สึกไม่สบายหรือเจ็บปวด และไม่ลังเลที่จะปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยหรือกังวลใดๆ

การฟื้นฟูเป็นการเดินทางที่ต้องใช้เวลา แต่ด้วยความพยายามและการดูแลที่ดี คุณจะสามารถกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างแน่นอน ดังนั้น 

สอบถามข้อมูล | นัดชมสถานที่

สาขาลาดพร้าว 71

สาขาสุขุมวิท 107

สาขาพัทยา

สาขาราชพฤกษ์

 

ข่าวสารบทความ อื่นๆ

KIN Rehab