นอนกรน อันตรายกว่าที่คิด!!

อันตรายจากการนอนกรน

 

นอนกรนเป็นอาการที่พบบ่อยมากในคนทุกเพศทุกวัย แต่รู้หรือไม่ว่า…การนอนกรนอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงอย่างโรคหยุดหายใจขณะหลับได้ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของคุณอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ โรคสมองเสื่อม โรคมะเร็ง หรือภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาต

 

โรคหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea, OSA) คือภาวะที่ทางเดินหายใจส่วนบนถูกปิดกั้นขณะนอนหลับ ทำให้หยุดหายใจเป็นช่วงๆ โดยแต่ละครั้งอาจกินเวลาเพียงไม่กี่วินาทีหรืออาจยาวนานถึงหลายนาทีก็ได้

 

โรคหยุดหายใจขณะหลับเป็นโรคที่อันตรายเพราะอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้ เช่น

• โรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง
• โรคความดันโลหิตสูง
• โรคเบาหวาน
• โรคอ้วน
• ภาวะซึมเศร้า
• อุบัติเหตุจากการง่วงนอน

 

สัญญาณเตือนโรคร้าย จากการนอนกรน

การนอนกรนเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย โดยเฉพาะในผู้ชายและผู้สูงอายุ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการนอนกรนอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรงต่างๆ ได้

โรคหัวใจ

การนอนกรนเกิดจากการที่ทางเดินหายใจตีบแคบลง ทำให้ออกซิเจนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ส่งผลให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวได้

โรคสมองเสื่อม

การนอนกรนทำให้คุณภาพการนอนหลับลดลง ทำให้สมองไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะสมองเสื่อมได้ในระยะยาว

โรคมะเร็ง

การนอนกรนอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้ใหญ่

อัมพฤกษ์ อัมพาต

การนอนกรนอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาตได้

อาการของโรคหยุดหายใจขณะหลับ

• นอนกรนดังมากเป็นประจำ
• หยุดหายใจเป็นช่วงๆ ขณะนอนหลับ
• รู้สึกนอนไม่เต็มอิ่ม ตื่นบ่อย มีอาการไม่สดชื่น
• คอแห้ง
• ปวดศีรษะเป็นประจำตอนเช้า
• ง่วงนอนมากผิดปกติในระหว่างวัน
• หงุดหงิดง่าย อารมณ์ไม่ดี
• มีโรคประจำตัวร่วมด้วย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ

 

การรักษาโรคหยุดหายใจขณะหลับ

การรักษาโรคหยุดหายใจขณะหลับจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและอาการของผู้ป่วย โดยแพทย์อาจแนะนำให้ใช้วิธีการรักษาต่างๆ ดังนี้

• การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน เช่น ลดน้ำหนัก นอนตะแคงข้าง หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนก่อนนอน
• การใช้เครื่องช่วยหายใจชนิดแรงดันอากาศต่อเนื่อง (Continuous Positive Airway Pressure, CPAP)
• การผ่าตัดเพื่อขยายทางเดินหายใจ

 

การป้องกันโรคหยุดหายใจขณะหลับ

แม้ว่าโรคหยุดหายใจขณะหลับจะเป็นโรคที่อันตราย แต่ก็สามารถป้องกันได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนและการใช้ชีวิต ดังนี้

• ลดน้ำหนัก
• นอนตะแคงข้าง
• หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนก่อนนอน
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
• งดสูบบุหรี่


เช็กปัญหาการนอน ด้วย Sleep Test

การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เป็นการตรวจการทำงานของร่างกายขณะนอนหลับ เพื่อหาสาเหตุของอาการต่าง ๆ ว่าปัญหาการนอนของเราเกิดจากอะไร โดยใช้เครื่องมือต่าง ๆ เช่น เครื่องวัดการหายใจ เครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เครื่องวัดการเคลื่อนไหวของร่างกาย และเครื่องวัดระดับออกซิเจนในเลือดในการตรวจ จากนั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะนำข้อมูลที่บันทึกไปวินิจฉัยโรค และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

 

ความปลอดภัยในการตรวจ Sleep Test

ปลอดภัยอย่างแน่นอน เพราะการตรวจแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดการตรวจ นอกจากนั่นอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจก็ได้รับการรับรองจากมาตรฐานสากล

หากคุณมีอาการนอนกรนดัง หรือมีอาการบ่งบอกว่าอาจเป็นโรคจากที่กล่าวข้างต้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย และรักษาอย่างทันท่วงที หรือจะทำการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) ที่ช่วยวินิจฉัย และประเมินความรุนแรงของโรคที่เกี่ยวกับการนอนหลับได้ หากสนใจการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) สามารถติดต่อเราที่ช่องทางด้านล่างได้เลย

สามารถติดต่อ KIN Rehabilitation & Homecare ศูนย์ฟื้นฟูโรคหลอดเลือดสมองของเราได้ตามช่องทางด้านล่าง

 

 
 

KIN - Rehabilitation & Homecare 
สาขา ลาดพร้าว 71

เลขที่ 6 ซอยนาคนิวาส 18 (ลาดพร้าว 71)

เวลาทำการ  ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.

 : KIN - Rehabilitation & Homecare
 แผนที่ : https://bit.ly/2VvPDq6

KIN Origin Healthcare Wellness Center
สาขา สุขุมวิท 107

596 หมู่ 7 ซอยแบริ่ง 10 ถนนแบริ่ง 107
สำโรงเหนือ เมืองสมุทรปราการ 

เวลาทำการ  ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.

 : Kin Origin Sukhumvit 107
 แผนที่ : https://shorturl.asia/KxzBk


ข่าวสารบทความ อื่นๆ

KIN Rehab