โรคอัมพาตคืออะไร?
โรคอัมพาต (Stroke) นิยามโดยสมาคมหัวใจและสมาคมอัมพาตอเมริกา (AHA/ASA) ว่าคือ การตายอย่างถาวรของเนื้อเยื่อในระบบประสาทกลางเนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยง ซึ่งอาจมีอาการชัดเจน ทันที อย่างกรณีอัมพาตเฉียบพลันจากหลอดเลือดสมองอุดตัน หรือเกิดอย่างเงียบๆ โดยไม่มีอาการ ให้เห็นเลย และครอบคลุมไปถึงภาวะเลือดตกในเนื้อสมองและในชั้นใต้เยื่อหุ้มสมองด้วย
การวินิจฉัยอัมพาตเฉียบพลัน
อัมพาตเฉียบพลัน (Acute stroke) เกิดได้จาก 2 สาเหตุ คือ มีลิ่มเลือดไปอุดตันหลอดเลือด ที่เป็นโรคหลอดเลือดตีบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว (Ischemic stroke) หรือมีเลือดออกในเนื้อสมองหรือ ในชั้นใต้เยื่อหุ้มสมอง (Hemorrhagic stroke) ซึ่งสามารถวินิจฉัยทันทีด้วยตนเองที่บ้าน จากอาการสําคัญ อย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ ซึ่งใช้ตัวย่อว่า BE FAST คือ
B - Balance สูญเสียการทรงตัว
E - Eyes ตามืด
F - Face หน้าเบี้ยว
A - Arm แขนอ่อนแรง ยกไม่ขึ้น
S - Speech พูดไม่ชัด
T - Time เตือนว่าต้องรีบไปโรงพยาบาลโดยเร็ว
การจัดการโรคอัมพาตเฉียบพลัน
เมื่อวินิจฉัยโรคอัมพาตเฉียบพลันด้วยตัวเองด้วยอาการอย่างใดอย่างหนึ่งใน 5 อย่าง คือ เสียการทรงตัว ตามีต หน้าเบี้ยว แขนอ่อนแรง พูดไม่ชัด ขั้นตอนต่อไปคือการรีบไปโรงพยาบาล ทั้งนี้มีประเด็นสําคัญว่า
- ต้องรีบ โดยนับเวลากันเป็นนาที ไม่ใช่เป็นชั่วโมง เพราะยิ่งลงมือรักษาด้วยการฉีดยาละลายลิ่มเลือดได้เร็วเท่าไร ยิ่งได้ผลดีมากเท่านั้น หากไปถึงโรงพยาบาลช้ากว่า 3-4 ชั่วโมง การรักษาจะไม่ได้ ผลดี และมีภาวะแทรกซ้อนจากเลือดออกสูง
- ต้องมุ่งไปโรงพยาบาลทีมีขีดความสามารถตรวจสมองด้วยอุโมงค์คอมพิวเตอร์ (CT) ได้ เพราะการจะฉีดยาละลายลิ่มเลือดได้ ต้องตรวจ CT ฉุกเฉินเพื่อวินิจฉัยแยกภาวะเลือดออกในสมองก่อน ดังนั้นอย่าเสียเวลาไปโรงพยาบาลที่ไม่สามารถตรวจ CT สมอง
- กรณีที่ไม่สะดวกที่จะไปโรงพยาบาลเอง ให้โทรศัพท์เรียกรถฉุกเฉินที่หมายเลข 1669 โดยแจ้งเป็น 9 ลําดับ ดังนี้
- ตั้งสติ โทร. 1669
- แจ้งว่ามีคนเป็นอัมพาตเฉียบพลัน โดยบอกอาการสําคัญ
- แจ้งที่อยู่และถนน ตรอก ซอย ที่จะเดินทางเข้ามารับอย่างละเอียด
- ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง เพศ อายุ อาการ จํานวนผู้ป่วย
- บอกระดับความรู้สึกตัวของผู้ป่วย (หมดสติหรือไม่)
- บอกความเสี่ยงที่จะเกิดเรื่องซ้ําเติม เช่น กําลังขับรถ เป็นต้น
- บอกชื่อและเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับของผู้แจ้งเหตุ
- ให้การช่วยเหลือเบื้องต้นตามคําแนะนํา
- รอรถฉุกเฉินมารับ
อนึ่ง ประชาชนทั่วไปที่ใช้โทรศัพท์มือถือ ควรดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน EMS 1669 ลงมาไว้ใน โทรศัพท์มือถือตัวเอง เมื่อมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น เพียงแค่กดปุ่มเรียกรถในแอปพลิเคชัน รถพยาบาลของ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติก็จะวิ่งมาตาม Location ที่ใช้โทรศัพท์อยู่นั้นได้ทันที เป็นการประหยัดเวลาค้นหาสถานที่
การฟื้นฟูหลังการเป็นอัมพาต
ความรู้ใหม่เรื่องนิวโรพลาสติกซิตี (Neuroplasticity) ซึ่งยืนยันว่าสมองส่วนที่เซลล์สมองตาย ไปแล้ว ร่างกายสามารถซ่อมแซมกลับมาได้ด้วยการให้เซลล์ดีๆ ข้างๆ งอกหน่อหรือกิ่งก้านกันใหม่ (Neurogenesis) แล้วไปเชื่อมต่อกัน (Rewiring) แทนเซลล์เก่า นี่เป็นความรู้ใหม่ที่แตกต่างจากความรู้เดิมที่วงการแพทย์เคยเชื่อกันว่าเซลล์สมองเป็นเซลล์ประเภทตายแล้วตายเลยไม่มีอะไหล่ ดังนั้นหลังเกิดอัมพาต ไม่ว่าจะรุนแรงเพียงใด สามารถฟื้นฟูให้กลับมาได้ ระดับหนึ่งทั้งสิ้น
การนําความรู้นี้มาประยุกต์ใช้สําหรับการฟื้นฟู หลังอัมพาต มีประเด็นสําคัญ 2 ประเด็น
ประเด็นที่ 1 การขยันทําซ้ำๆ การจะเกิดการเชื่อมต่อเซลล์ขึ้นใหม่นั้นต้องอาศัยการพยายามฝึก พยายามฝืนใช้ร่างกายส่วนที่เป็นอัมพาต โดยต้องพยายามทํามันบ่อยๆ ทําทักษะนั้นซ้ำๆ ซากๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ทําทุกลมหายใจเข้าออกที่ใช้ชีวิตประจําวันอยู่ ทําเป็นหมื่นๆ ครั้ง การจะสร้าง การเชื่อมต่อใหม่ในสมองจึงจะได้ผลการรอไปทํากายภาพบําบัดที่โรงพยาบาลครั้งละ 1 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เท่านั้นไม่พอ ต้องขยันทําการฟื้นฟูตัวเองที่บ้านอย่างจริงจังทุกวัน ทุกที่ ทุกเวลา จึงจะได้ผล
ประเด็นที่ 2 การทําเอง อย่าหวังพึ่งคนอื่นหรือนักกายภาพบําบัด ผู้ป่วยต้องทําเอง ยกตัวอย่าง ง่ายๆ ช่วงหลังเป็นอัมพาตใหม่ๆ ขณะที่แขนขาข้างหนึ่งตายสนิท ผู้ป่วยต้องการการออกกําลังกายแบบ ธํารงพิสัยการเคลื่อนไหวของข้อ (Range of motion: ROM) หมายถึง การพยายามทําให้ข้อข้างที่เป็นอัมพาตซึ่งนิ่งสนิทไปแล้วมีการเคลื่อนไหวได้เต็มวงสวิงหรือเต็มพิสัยที่มันเคยเคลื่อนไหวได้ เพราะถ้า มันไม่ได้ขยับ นานไปข้อจะติด และหมดโอกาสที่จะขยับได้เป็นการถาวร ถ้าแขนหรือขานั้นมันพอขยับได้บ้าง วิธีที่ดีที่สุดคือเจ้าตัวตั้งใจพยายามขยับมันให้มากขึ้นๆ (Active ROM: AROM) แต่ถ้าหลังอัมพาตใหม่ๆ แขนหรือขานั้นเป็นอัมพาตไปแล้วสิ้นเชิง กระดิกกระเดี้ยเองไม่ได้เลย ที่ทําทั่วไปคืออาศัย นักกายภาพบําบัดจับโยก (Passive ROM: PROM) แต่เวลาที่นักกายภาพจะมาจับโยกให้เราเป็นเวลาที่น้อยนิดเหลือเกิน มันไม่พอที่ให้สมองได้เรียนรู้และสร้างการเชื่อมต่อใหม่ๆ ขึ้นมาได้ ครั้นจะอาศัย คนอื่นเขาก็ล้วนมีทัศนคติว่าฉันไม่ใช่นักกายภาพ ฉันไม่ใช่หมอ ฉันไม่กล้าทํา ผู้ป่วยจึงต้องทําเอง โดยจับแขนขาข้างดีของตัวเองมัดไว้กับข้างไม่ดีให้มันช่วยพากันไป เรียกว่าวิธีออกกําลังกายแบบ Self-passive ROM (SPROM) ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่ได้ผลดีที่สุด
(ขอบคุณข้อมูลจาก : นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ และพญ.พิจิกา วัชราภิชาต, 2566, “Healthy Life Bible คัมภีร์สุขภาพดี สุขภาพดีได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง”, หน้า 227-229)
หากต้องการหา ศูนย์ฟื้นฟูโรคหลอดเลือดสมอง KIN สนใจสอบถาม


KIN - Rehabilitation & Homecare
สาขา ลาดพร้าว 71
เลขที่ 6 ซอยนาคนิวาส 18 (ลาดพร้าว 71)
เวลาทำการ ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.
: KIN - Rehabilitation & Homecare
แผนที่ : https://bit.ly/2VvPDq6
KIN Origin Healthcare Wellness Center
สาขา สุขุมวิท 107
596 หมู่ 7 ซอยแบริ่ง 10 ถนนแบริ่ง 107
สำโรงเหนือ เมืองสมุทรปราการ
เวลาทำการ ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.
: Kin Origin Sukhumvit 107
แผนที่ : https://shorturl.asia/KxzBk