ปวดเข่าด้านใน โรคสำคัญที่นักกีฬาควรรู้ (Pes anserine bursitis)

ปวดเข่าด้านใน โรคสำคัญที่นักกีฬาควรรู้ (Pes anserine bursitis)

 

          นั่งก็โอย ลุกก็โอย  อาการปวดแปลบๆของเข่าด้านใน ที่อาจไม่ใช่จากโรคข้อเข่าเสื่อม แต่เป็น Pes anserine bursitis หรือถุงน้ำเข่าด้านในอักเสบ ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการบาดเจ็บของข้อเข่าที่พบได้มาก โดยเฉพาะในนักกีฬาที่มีการใช้งานเข่าในลักษณะซ้ำๆ

 

          Pes anserine bursitis หรือถุงน้ำเข่าด้านในอักเสบ เกิดจากแรงเสียดสีและความตึงเครียดของถุงน้ำ (bursa) ที่อยู่ระหว่างกระดูกหน้าแข้งและเส้นเอ็นของกล้ามเนื้อขา จนนำไปสู่การอักเสบของถุงน้ำ โดยมักพบอาการปวดและบวมที่บริเวณเข่าด้านใน ใกล้กับส่วนต้นของกระดูกหน้าแข้ง ที่เป็นจุดเกาะของกล้ามเนื้อขาทั้ง 3 มัด (pes anserine) ได้แก่ กล้ามเนื้อ sartorius, gracilis และ semitendinosus ทั้ง 3 มัดเป็นกลุ่มกล้ามเนื้อที่ใช้ในการเริ่มต้นของการงอเข่าและหมุนขาเข้าด้านใน ดังนั้นเมื่อมีการใช้งานซ้ำๆ จึงทำให้มีอาการอักเสบของถุงน้ำเข่าถัดมา พบได้มากในนักกีฬา และผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุ หรือแรงกระแทกบริเวณข้อเข่าด้านใน

 

สาเหตุของการเกิด Pes anserine bursitis

  1. การใช้งานข้อเข่าอย่างหนัก และต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานาน ทำให้มีแรงเสียดสีของถุงน้ำเข่าด้านในที่เพิ่มมากขึ้น เช่น นักกีฬา เป็นต้น
  2. ได้รับอุบัติเหตุโดยตรง หรือได้รับแรงกระแทกบริเวณถุงน้ำเข่าด้านใน

  3. ผู้ป่วยที่มีภาวะของโรคข้อเข่าเสื่อมอยู่แล้ว หรือในผู้ที่มีภาวะเข่าบิดเข้าด้านใน (genu valgum)
  4. ภาวะอ้วน เนื่องจากทำให้กล้ามเนื้อมีการกดเบียด และเสียดสีถุงน้ำเข่าได้มากกว่า จนทำให้เกิดอาการอักเสบ

อาการของ Pes anserine bursitis

  1. ปวดเข่าด้านใน ต่ำกว่าแนวข้อเข่าประมาณ 2 นิ้ว ในบางราย พบอาการแดง ร้อนบริเวณเข่าด้านในร่วมด้วย
  2. อาการปวดจะค่อยๆ เกิดขึ้นทีละน้อย ไม่เกิดขึ้นฉับพลัน
  3. ปวดขณะงอ เหยียดเข่า และขณะเดินบนพื้นผิวเรียบ ปวดมากขึ้นเมื่อขึ้นลงบันได หรือเปลี่ยนท่าทางจากท่านั่งเป็นท่ายืน
  4. ในบางรายอาจพบองศาการเคลื่อนไหวของเข่าลดลง หรือมีรูปแบบการเดินที่เปลี่ยนไปจากปกติได้ เนื่องจากมีอาการเจ็บเข่าด้านในที่มากขึ้น จึงส่งผลทำให้กล้ามเนื้อขาอ่อนแรงลง
  5. ให้แรงกดบริเวณใต้ข้อเข่าด้านในจะมีอาการเจ็บ

แนวทางการรักษา Pes anserine bursitis

1. ประคบเย็น และพักการใช้งาน ในช่วงแรกของการบาดเจ็บจะมีอาการปวด บวม แดง ร้อน จึงจำเป็นต้องพักการใช้ขา ต่อด้วยการประคบเย็นเพื่อลดอาการปวด และลดการอักเสบ
2. การทานยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ และชนิดที่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) โดยต้องปรึกษาเภสัชกรก่อนทานยา
3. การผ่าตัด มักทำในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บเรื้อรัง หรือรักษาด้วยวิธีประคับประคองไม่ได้ผล
4. การรักษาทางกายภาพบำบัด เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นมากในปัจจุบัน ซึ่งการรักษาทางกายภาพประกอบไปด้วย การใช้คลื่อนอัลตร้าซาวด์เพื่อลดอาการปวด เร่งกระบวนการซ่อมแซมภายในเนื้อเยื่อ การออกกำลังกายเพิ่มเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และความยืดหยุ่นของข้อเข่า เป็นต้น

 

ข้อมูล : กภ.พรนภัส เรือนทองดี

 

 

สอบถามข้อมูลการฟื้นฟู
และนัดดูสถานที่

 

สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่ม นัดหมายเข้ามาดูสถานที่ ติดต่อ
KIN (คิน) - Rehabilitation & Homecare
 โทร : 091-803-3071 , 095-884-2233 , 02-096-4996 กด 1
 LINE สอบถามรายละเอียด @kinrehab (มี @ ข้างหน้า) หรือ Click : http://bit.ly/2M5f3Id
 Youtube Channel : https://cutt.ly/TyTh3bd
 แผนที่ไป KIN : http://bit.ly/2VvPDq6

ข่าวสารบทความ อื่นๆ

KIN Rehab