ฉีดข้อเข่าด้วย PRP
ราคาพิเศษ 4,000 บาท/ครั้ง
*แถมทำกายภาพฟรี 1 ครั้ง
PRP (Platelet Rich Plasma) Therapy เป็นการนำเลือดของตัวเองมาใช้ในการรักษาและซ่อมแซม โดยใช้คุณสมบัติของ 'Platelet and Growth factor' ที่มีอยู่ในส่วนประกอบของเลือดที่เรียกว่า Plasma ซึ่งทำหน้าที่ช่วยเร่งกระบวนการรักษาแผล ซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อที่ได้รับบาดเจ็บหรืออักเสบ รวมถึงการเสริมสร้างกระดูกและผิวข้อ และฟื้นฟูอวัยวะที่มีการเสื่อมหรือบาดเจ็บ
การฉีด PRP รักษาอาการบาดเจ็บได้อย่างไร?
เกล็ดเลือดที่เข้มข้นจะมีโกรทแฟคเตอร์ (Growth factor) ที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของเซลล์ได้ ในทางการแพทย์จึงมีการนำ PRP มาฉีดเพื่อช่วยรักษาและฟื้นฟูเซลล์และเนื้อเยื่อหลายชนิด รวมถึงการฉีดเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของเส้นเอ็น (Tendon) เอ็นยึดข้อ (Ligament) กล้ามเนื้อ และข้อต่อด้วย ซึ่งในการรักษาอาจจำเป็นต้องมีการฉีดหลายครั้ง หรือหลายตำแหน่ง โดยเว้นระยะห่างกันครั้งละ 7-10 วัน ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมินอาการของแต่ละคน
หลังจากฉีด PRP โกรทแฟคเตอร์จะค่อยๆ กระตุ้นการฟื้นฟูในร่างกาย จึงอาจไม่เห็นผลเปลี่ยนแปลงในทันที แต่จะค่อยๆ รู้สึกดีขึ้นใน 1 เดือน ขึ้นอยู่กับความรุนแรง และสาเหตุการเกิดความผิดปกติด้วย
เหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
- ผู้ที่มีอาการปวดข้อเข่า จากภาวะข้อเข่าเสื่อม(ระยะแรก)
- ผู้ที่มีอาการปวดฝาเท้าเรื้อรัง จากพังผืดอักเสบ
- ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บของหมอนรองกระดูกข้อเข่า เข่าอักเสบ
- ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บและความเสื่อมของเส้นเอ็น บริเวณ ไหล่ ข้อศอก เอ็นร้อยหวาย
- ผู้ที่มีอาการแพ้ยาแก้ปวด หรือยาต้านการอักเสบ
ข้อห้ามในการฉีด PRP ฟื้นฟูกล้ามเนื้อ เอ็นฉีก
- ผู้ที่มีเกล็ดเลือดต่ำ (Low platelet count)
- ผู้ที่มีภาวะโลหิตจาง
- ผู้ป่วยโรคมะเร็ง
- ผู้ที่มีภาวะติดเชื้อ
สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
- ยา หรืออาหารเสริมที่กินเป็นประจำ
- ประวัติแพ้ยา หรืออาหาร
- โรคประจำตัว
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- อาจรู้สึกเจ็บ หรือมีรอยช้ำบริเวณที่ฉีด
- อาจเกิดการติดเชื้อ
- อาจส่งผลกระทบต่อระบบประสาท
- อาจเกิดความเสียหายที่เนื้อเยื่อ
- หากมีการฉีดยาประเภทอื่น เช่น กรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic acid) คอร์ติโซน (Cortisone)อาจเกิดอาการแพ้ได้
โรคข้อเข่าเสื่อม เป็นโรคที่เกิดจากการใช้ข้อเข่าต่อเนื่องอย่างยาวนาน จนทำให้กระดูกอ่อนที่บริเวณข้อเข่าค่อยๆสึกกร่อนไป น้ำเลี้ยงในข้อเข่าก็เสื่อมสภาพลงจนไม่สามารถลดการเสียดสีและลดการกระแทกได้ตามปกติ
• รู้สึกเจ็บหรือปวดที่เข่า ทำให้เดิน ลุก หรือนั่งไม่สะดวก
ข้อเข่าฝืดตึง ไม่สามารถงอขาหรือเหยียดขาให้สุดได้
ในผู้ป่วยบางราย มีเสียงที่ข้อเข่าเมื่อเหยียดหรืองอเข่า
ในผู้ป่วยบางรายมีอาการขาโก่ง หรือกระดูกงอกร่วมด้วย
หากมีอาการอักเสบเข่าจะบวมร้อน และรู้สึกเจ็บปวดแม้ไม่ได้ขยับเข่า