ประวัติผู้ป่วยและอาการเริ่มต้น
ผู้ป่วยรายนี้มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ความดันโลหิตสูงเล็กน้อย และภาวะไขมันในเลือดสูง วันหนึ่งผู้ป่วยเกิดอาการอ่อนแรงด้านขวาทันที พูดไม่ชัดและมีปัญหาในการควบคุมกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ญาติที่อยู่ใกล้ชิดรีบพาผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลทันที ซึ่งแพทย์ได้ทำการตรวจวินิจฉัยและสรุปว่า ผู้ป่วยเป็นภาวะหลอดเลือดสมองตีบ
กระบวนการวินิจฉัยและรักษา
ทันทีที่ผู้ป่วยมาถึงโรงพยาบาล ทีมแพทย์เฉพาะทางได้ทำการประเมินอาการเบื้องต้น จากนั้นทำการสแกนสมองด้วย CT scan และ MRI เพื่อยืนยันการวินิจฉัย พบว่ามีการอุดตันของหลอดเลือดที่สำคัญ ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดไปยังสมองส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวและการพูดถูกขัดขวาง ทำให้เกิดอาการที่พบได้ชัดเจน เมื่อทราบผลการตรวจ แพทย์ได้เริ่มการรักษาโดยการให้ยาละลายลิ่มเลือดทันที (ในกรณีที่ผู้ป่วยมาถึงโรงพยาบาลภายในระยะเวลาที่เหมาะสม) หรือรักษาด้วยยาเพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือดเพิ่มเติม รวมถึงควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดหลอดเลือดสมองตีบซ้ำในอนาคต
แผนการฟื้นฟูสมรรถภาพ
หลังจากผ่านพ้นช่วงวิกฤตของโรค ทีมแพทย์แนะนำให้ผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพ โดยเริ่มตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ออกจากโรงพยาบาล ได้เข้ามาทำการฟื้นฟูที่ KIN Wellness การฟื้นฟูนี้ประกอบด้วยนักกายภาพบำบัดและนักกิจกรรมบำบัดที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในด้านการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ทีมงานได้วางแผนการบำบัดอย่างเข้มข้น โดยเน้นที่การฟื้นฟูสมรรถภาพการเคลื่อนไหวและการสื่อสาร
-
การฟื้นฟูทางกายภาพ (Physical Rehabilitation)
- การทำกายภาพบำบัดเริ่มต้นจากการกระตุ้นให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวเบื้องต้น เช่น การนั่ง ลุกจากเตียง และพยายามเดินระยะสั้น ๆ ด้วยการช่วยเหลือของนักกายภาพบำบัด
- การบำบัดเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อด้านขวาที่อ่อนแรง โดยใช้อุปกรณ์และเทคนิคเฉพาะ เช่น การทำกิจกรรมแบบซ้ำ ๆ เพื่อกระตุ้นสมองให้เรียนรู้การควบคุมกล้ามเนื้อใหม่
- โปรแกรมการออกกำลังกายที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง ความสมดุล และการประสานงานระหว่างกล้ามเนื้อ
-
การฟื้นฟูด้านการสื่อสาร (Speech and Language Therapy)
- นักกิจกรรมบำบัดได้ทำการฝึกการพูดโดยเริ่มจากการออกเสียงคำง่าย ๆ ไปจนถึงประโยคสั้น ๆ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นฟูการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ใช้เทคนิคที่เน้นการออกเสียงอย่างช้า ๆ และการฝึกควบคุมกล้ามเนื้อใบหน้าเพื่อช่วยในการพูด
- นอกจากนี้ยังมีการฝึกทักษะทางสังคมเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถสนทนาและแสดงออกได้อย่างมั่นใจ
ผลลัพธ์หลังการฟื้นฟู 2 เดือน
หลังจากที่ผู้ป่วยได้รับการบำบัดอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 2 เดือน ผลลัพธ์ที่ได้รับเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง ผู้ป่วยสามารถเดินได้ด้วยตัวเองแม้จะยังมีการช่วยเหลือเล็กน้อยในช่วงแรก แต่พัฒนาการในด้านการเคลื่อนไหวชัดเจนขึ้นทุกสัปดาห์ ความสมดุลของร่างกายดีขึ้นอย่างมาก และสามารถทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การแต่งตัว การรับประทานอาหาร และการทำงานบ้านเบา ๆ ได้ด้วยตนเอง
ในส่วนของการสื่อสาร ผู้ป่วยมีพัฒนาการดีขึ้นจากการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เสียงที่ออกมาชัดเจนขึ้น การควบคุมการออกเสียงดีขึ้น และสามารถสื่อสารความต้องการของตนเองได้อย่างเข้าใจ นอกจากนี้ผู้ป่วยยังมีทักษะการพูดโต้ตอบในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น ทำให้สามารถกลับมาทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวและเพื่อนได้อย่างมั่นใจ
ความสำเร็จและความประทับใจ
การฟื้นฟูสมรรถภาพในผู้ป่วยรายนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการได้รับการบำบัดที่เหมาะสมและต่อเนื่อง ทั้งนักกายภาพบำบัดและนักกิจกรรมบำบัดมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูสมรรถภาพและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้กลับมาใกล้เคียงปกติมากที่สุด ความร่วมมือของผู้ป่วยและกำลังใจจากครอบครัวมีส่วนช่วยสำคัญในการประสบความสำเร็จครั้งนี้ ผู้ป่วยได้รับความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพตนเองในระยะยาว และมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำของทีมบำบัดเพื่อลดโอกาสการเกิดโรคซ้ำ
ประสบการณ์ผู้ใช้บริการจริง (Testimonial) อื่นๆ
"ดูแลใกล้ชิดทุกวินาที คือโอกาส การฟื้นตัว ทีมพยาบาลและผู้ช่วยพยาบาลของ Kin Origin คือหัวใจของการฟื้นฟูแบบองค์รวม" รีวิวจากผู้เข้ารับบริการ คุณเจริญวิทย์ EP5

"ธาราบำบัด ลู่วิ่งในน้ำ การฟื้นฟูที่ปลอดภัย และรวดเร็วสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง" รีวิวจากผู้เข้ารับบริการ คุณเจริญวิทย์ EP4

"เป้าหมายการฟื้นฟู ไม่ใช่แค่ฝึกเดิน... แต่ฝึกใช้ชีวิตจริงด้วยการทำกิจกรรมบำบัด" รีวิวจากผู้เข้ารับบริการ คุณเจริญวิทย์ EP3

“สามเดือนแรกหลังออกจากโรงพยาบาล คือช่วงเวลาทองในการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง” รีวิวจากผู้เข้ารับบริการ คุณเจริญวิทย์ EP2

REVIEW ผู้เข้ารับบริการทำการรักษาและฟื้นฟู โรคหลอดเลือดสมอง ฟื้นฟูด้วยกายภาพบำบัด และฟื้นฟูด้วยเครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้า ในระยะเวลา 3 เดือน
