ฝนตก น้ำป่าไหลหลาก น้ำทะเลหนุนทำให้น้ำท่วมบ้านเรือน นอนจากมีต้นไม้ ขยะ ที่ลอยมากับน้ำแล้วก็มีโรคไหลมาด้วยเช่นกัน
โรคที่มากับน้ำ
- โรคผิวหนัง อาการที่พบได้แก่
- ผื่นแดง
- แห้งเป็นขุย
- คันยุบยิบ
- เป็น ๆ หาย ๆ
- หากเป็นเรื้อรังผิวหนังจะหนาและมีรอยคล้ำ
- คันมากขึ้นเมื่อเหงื่อออก
- ยิ่งเกา ยิ่งคัน
การป้องกัน
- ทำความสะอาดร่างกายและล้างมืออยู่เสมอ
- ใช้สบู่อ่อน ๆ ไม่มีน้ำหอม ไม่มีสารกันเสีย และอ่อนโยนต่อผิว
- ทาโลชั่นทุกครั้งหลังอาบน้ำเพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
- หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่รัดมาก เนื้อหยาบหนา หรือผ้าขนสัตว์ ซึ่งทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว
- หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีฝุ่นละออง แมลง และยุงชุกชุม
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกาย เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
- โรคหัด อาการที่พบได้แก่
- อาการคล้ายหวัด เช่น คัดจมูก จาม และไอ
- ปวดตา ตาแดง น้ำตาไหล อาจไหวต่อแสงเพิ่มขึ้น
- มีไข้สูงถึง 40 องศาเซลเซียส
- ปวดกล้ามเนื้อ
- เบื่ออาหาร
- เหน็ดเหนื่อย ระคายเคือง และหมดเรี่ยวแรง
- ต่อมน้ำเหลืองโต
- เกิดจุดสีเทาขาวภายในกระพุ้งแก้ม
การป้องกัน
- อยู่ให้ห่างจากผู้ป่วยโรคหัด เพื่อป้องการการติดต่อ
- ล้างมือให้สะอาดก่อนทานอาหาร หรือหยิบจับอาหารเข้าปาก
- ออกกำลังกายให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันอยู่เสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
- ให้เด็กเล็กฉีดวัคซีนป้องกันโรคหวัด เข็มแรกตอนอายุ 9 เดือน เข็มที่ 2 ตอนอายุ 2 ขวบครึ่ง หากฉีดวัคซีน Measles-Mumps-Rubella Vaccine (MMR) เด็กสามารถรับวัคซีนได้ครั้งแรกเมื่ออายุครบ 9-12 เดือน และรับวัคซีนครั้งต่อไปเมื่ออายุ 4-6 ปี
- เด็กโต หรือผู้ใหญ่ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโรคหัด สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ 2 ครั้งเช่นกัน แต่ละครั้งห่างกันอย่างน้อย 28 วัน
- หากเป็นผู้ป่วยโรคหัด ควรงดออกนอกบ้านจนกว่าอาการจะหายดี หากมีความจำเป็นต้องออกไปข้างนอก ควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสผ่านการไอ และจาม
- โรคระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม อาการที่พบได้แก่
- ไข้
- ไอ
- เจ็บคอ
- คัดจมูก
- มีน้ำมูก
- ปวดศีรษะ
- ปวดเมื่อยตามตัว
- อ่อนเพลีย
- เบื่ออาหาร
การป้องกัน
- ดูแลร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ
- ไม่สวมเสื้อผ้าที่เปียกชื้น
- เช็ดตัวให้แห้ง
- หลีกเลี่ยงการแช่น้ำเป็นเวลานาน
- หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่เป็นหวัด
- ปิดปากและจมูกเวลาไอ หรือ จาม
- ล้างมือเป็นประจำ ด้วยน้ำ และสบู่
- โรคตาแดง อาการที่พบได้แก่
- ตาแดง
- ระคายเคืองตา
- น้ำตาไหล
- กลัวแสง
- มีขี้ตา
- หนังตาบวม
การป้องกัน
- ล้างด้วยน้ำสะอาดทันทีถ้ามีฝุ่นละอองหรือน้ำสกปรกเข้าตา
- ไม่ควรขยี้ตาด้วยมือที่สกปรก อย่าให้แมลงตอมตา
- แยกผู้ป่วยตาแดงออกจากคนอื่น ๆ
- ไม่ใช้สิ่งของร่วมกันเพื่อป้องกันการระบาดของโรค
- โรคระบบทางเดินอาหาร อาหารที่พบได้แก่
- ถ่ายอุจจาระเหลว หรือถ่ายเป็นน้ำ หรือมีมูกเลือด
- ปวดท้อง
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- ปวดศีรษะ
- มีไข้
- ปวดเมื่อยตามตัว
- เบื่ออาหาร
- ตัวเหลือง
การป้องกัน
- ทานอาหารที่ปรุงสุกและสะอาด อาหารกระป๋องที่ยังไม่หมดอายุ กระป๋องไม่บวมหรือเป็นสนิม
- ดื่มน้ำสะอาด เช่น น้ำจากขวดที่ฝาปิดสนิท น้ำต้มสุก
- ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ทุกครั้ง ก่อนกินอาหาร และหลังการใช้ห้องน้ำ
- ห้ามถ่ายอุจจาระลงในน้ำโดยตรง ถ้าส้วมใช้ไม่ได้ ให้ถ่ายลงในถุงพลาสติก ปิดปากถุงให้แน่น แล้วนำไปใส่ในถุงขยะ
- โรคไข้มาลาเรีย จะมี “ยุงก้นป่อง” เป็นพาหะนำโรค อาการที่พบได้แก่
- มีไข้สูง
- เหงื่อออกชุ่ม
- หนาวสั่น
- ปวดหัว
- ปวดกล้ามเนื้อ
- อ่อนเพลีย
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- ท้องเสีย
การป้องกัน
- ควรนอนในมุ้ง ระวังอย่าให้ยุงกัด
- กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงทุกชนิด
- ถ้าต้องเข้าไปอยู่ในเขตที่มีไข้มาลาเรียควรกินยาป้องกันไว้ล่วงหน้า
- โรคไข้เลือดออก จะมี "ยุงลาย" เป็นพาหะน้ำโรค อาการที่พบได้แก่
- ไข้สูงลอย
- ปวดศีรษะ
- ปวดเมื่อยตามตัว
- หน้าแดง
- จุดเลือดออกตามผิวหนัง
- เลือดออกตามไรฟัน
การป้องกัน
- ระวังอย่าให้ยุงกัดในเวลากลางวัน
- นอนในมุ้ง
- ทายากันยุง
- กำจัดลูกน้ำและแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยปิดฝาภาชนะเก็บน้ำไม่ให้มีน้ำขัง
- โรคฉี่หนู หรือโรคเลปโตสไปโรซิส อาการที่พบได้แก่
- ไข้สูงฉับพลัน
- ปวดศีรษะ
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมาก โดยเฉพาะบริเวณน่องและโคนขา หรือปวดหลัง
- อาจมีอาการตาแดง
- มีจุดเลือดออกตามผิวหนัง
- ไอมีเลือดปน
- ตัวเหลือง
- ตาเหลือง
- ปัสสาวะน้อย
- ซึม
- สับสน
การป้องกัน
- หลีกเลี่ยงการลุยน้ำลุยโคลน
- ป้องกันไม่ให้บาดแผลสัมผัสถูกน้ำโดยการสวมร้องเท้าบูธยาง
- รีบล้างเท้าให้สะอาดด้วยสบู่แล้วเช็ดให้แห้งโดยเร็วที่สุดเมื่อต้องลุยน้ำย่ำโคลน
- โรคน้ำกัดเท้า อาการที่พบได้แก่
- เท้าเปื่อยและเป็นหนอง
- คันตามซอกนิ้วเท้า
- ผิวหนังลอกเป็นขุย
- มีผื่นผุพอง
- ผิวหนังอักเสบบวมแดง
การป้องกัน
- หลีกเลี่ยงการลุยน้ำลุยโคลน
- ป้องกันไม่ให้บาดแผลสัมผัสถูกน้ำโดยการสวมร้องเท้าบูธยาง
- รีบล้างเท้าให้สะอาดด้วยสบู่แล้วเช็ดให้แห้งโดยเร็วที่สุดเมื่อต้องลุยน้ำย่ำโคลน
***ถ้าพบอาการข้างต้นควรรีบศึกษาแพทย์เพื่อเข้ารักการรักษาในขึ้นตอนต่อไป***
นอกจากโรคต่างๆที่ตามมาแล้ว อาจจะเกิดอุบัติเหตุและถูกสัตว์ที่มีพิษกัดต่อยด้วย
อุบัติเหตุที่พบบ่อยในช่วงน้ำท่วม ได้แก่
- ไฟดูด
- จมน้ำ
- เหยียบของมีคม
อันตรายจากสัตว์มีพิษที่พบบ่อยในช่วงน้ำท่วม ได้แก่
- งู
- ตะขาบ
- แมงป่อง
ซึ่งหนีน้ำมาหลบอาศัยในบริเวณบ้านเรือน
การป้องกัน
- ถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้า สับคัตเอาต์ตัดไฟฟ้าในบ้านก่อนที่น้ำจะท่วมถึง
- เก็บกวาดขยะ วัตถุแหลมคม ในบริเวณอาคารบ้านเรือน และตามทางเดินอย่างสม่ำเสมอ
ที่มาข้อมูล : https://www.bangkokhospital.com/content/contagious-diseases-dangerous-from-the-flood
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่ม นัดหมายเข้ามาดูสถานที่ ติดต่อ
KIN (คิน) - Rehabilitation & Homecare
KIN (คิน) - Rehabilitation & Homecare










Tags