คอร์สออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ปวดคอ-บ่า-ไหล่ สำหรับชาวออฟฟิศ
คอร์สพรีเมียม • ออฟฟิศซินโดรม

คอร์สออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ปวดคอ-บ่า-ไหล่ สำหรับชาวออฟฟิศ

โปรแกรมดูแลอาการปวดจากงานออฟฟิศแบบครบวงจร ลดปวด คืนความคล่องตัว และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ โดยทีมกายภาพบำบัดของ KIN ORIGIN REHAB CENTER x KIN WELLNESS

รายละเอียดคอร์ส (5 ครั้ง / ใช้ภายใน 3 เดือน)

  • ตรวจประเมินโดยนักกายภาพบำบัด 1 ครั้ง
  • Shockwave 1,500 ช็อต หรือ Laser 10 นาที (เลือกตามอาการ)
  • Stretching / Manual Technique 10 นาที
  • Hot Pack / Cold Pack
  • Ultrasound 10 นาที
  • Exercise Program เฉพาะบุคคล 10 นาที

ออฟฟิศซินโดรมคืออะไร

ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) คือกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืดจากการใช้ท่าทางเดิมซ้ำ ๆ นาน ๆ โดยเฉพาะการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ต่อเนื่อง มักปวดคอ หลัง ไหล่ บ่า แขน ข้อมือ อาจมีอาการชา ตึง ล้า หากปล่อยไว้เสี่ยงเรื้อรัง ส่งผลต่อการนอนและอารมณ์ได้

สาเหตุหลักคือท่าทางการนั่งทำงานไม่ถูกหลักยศาสตร์ โต๊ะ-เก้าอี้-จอไม่เหมาะสม และการขยับน้อย รวมถึงการก้มดูจอนาน ทำให้กล้ามเนื้ออักเสบสะสม ปวดศีรษะและตาแห้งร่วมได้

แนวทางป้องกัน

  • จัดท่านั่งให้ถูกหลักยศาสตร์ หลังตรง คางในแนวเหมาะสม
  • ยกจอให้อยู่ระดับสายตา จัดคีย์บอร์ด/เมาส์ให้รับกับไหล่-ศอก
  • ลุกเปลี่ยนอิริยาบถทุก 60–120 นาที
  • ยืดเหยียด + เสริมความแข็งแรงแกนกลางอย่างสม่ำเสมอ

การรักษาที่ใช้ร่วม

  • กายภาพบำบัด เทคนิคคลายจุดกดเจ็บ
  • Shockwave / Laser / Ultrasound ตามข้อบ่งชี้
  • Hot/Cold Pack เพื่อลดปวดและอักเสบ
  • แบบฝึกเฉพาะบุคคล ปรับพฤติกรรมการทำงาน

อาการเบื้องต้นของออฟฟิศซินโดรมที่ควรรู้

  • ปวดเมื่อยกว้าง ๆ บริเวณคอ บ่า ไหล่ สะบัก และหลัง อาจปวดร้าวไปไหล่ แขน หรือศีรษะ
  • ปวดศีรษะเรื้อรัง/ไมเกรน จากคอ-บ่า-ไหล่ตึงเกร็ง หรือใช้สายตามาก
  • ตาแห้ง ตาพร่า จากการจ้องหน้าจอนานโดยไม่พัก
  • ชา/เจ็บนิ้วและข้อมือ อาจมีภาวะกดทับเส้นประสาทหรือเอ็นอักเสบ
  • ตึง-เหน็บชาที่ขา จากการนั่งนาน กระทบการไหลเวียนเลือด
  • กล้ามเนื้อล้าและเกร็งง่ายเมื่อทำงานต่อเนื่อง

สัญญาณเตือนว่าเริ่มรุนแรง ควรพบผู้เชี่ยวชาญ

  • ปวดเรื้อรังคอ-บ่า-ไหล่-หลัง-สะโพก ปวดร้าวไปศีรษะ แขน หรือขา
  • ชา-เสียวซ่าที่แขน มือ นิ้วมือ มีอ่อนแรงจากเส้นประสาทถูกกดทับ
  • ปวดข้อมือ/นิ้วมือ เอ็นอักเสบ หรือนิ้วล็อก
  • นอนไม่หลับจากความเจ็บปวดและความเครียด
  • ปวดศีรษะเรื้อรังหรือไมเกรน สมาธิลด เหนื่อยล้าเกินปกติ

การรักษาด้วยกายภาพบำบัด: แผนการดูแล

ระยะเริ่มต้น

สัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง ต่อเนื่อง 2–4 สัปดาห์ เพื่อลดปวด-คลายเกร็ง ฟื้นความยืดหยุ่น

ทรัพยากรที่ใช้

Manual / Stretching, Shockwave/Laser/Ultrasound, Hot/Cold Pack, Exercise Program

ระยะคงสภาพ

หลังอาการดีขึ้น ลดเหลือสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง และระยะยาวเดือนละ 1–2 ครั้ง เพื่อป้องกันซ้ำ

นักกายภาพบำบัดจะออกแบบโปรแกรมเฉพาะบุคคลตามความรุนแรงและพฤติกรรมการทำงาน เพื่อให้กลับไปใช้ชีวิตและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

ควรทำกายภาพบำบัดบ่อยแค่ไหน?

ระยะเริ่มต้นแนะนำสัปดาห์ละ 2–3 ครั้งเพื่อควบคุมอาการ จากนั้นปรับเหลือ 1–2 ครั้ง/สัปดาห์เพื่อเสริมความแข็งแรง และในระยะยาวอาจทำเดือนละ 1–2 ครั้ง ร่วมกับการออกกำลังและปรับท่าทางที่บ้านเพื่อลดการกลับมาเป็นซ้ำ

เริ่มต้นวันนี้ เพื่อลดปวดและป้องกันซ้ำ

ปรึกษาฟรีกับทีมกายภาพบำบัด KIN — ประเมินอาการและวางแผนเฉพาะบุคคล


ข้อควรระวัง: ผู้ที่มีภาวะกระดูกเสื่อมขั้นรุนแรง ตั้งครรภ์ มีเครื่องกระตุ้นหัวใจ ภาวะเลือดออกง่าย หรือมีการติดเชื้อเฉียบพลัน ควรปรึกษาแพทย์/นักกายภาพบำบัดก่อนเข้ารับบริการ

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

สาขาลาดพร้าว 71

สาขาสุขุมวิท 107

สาขาพัทยา

สาขาราชพฤกษ์

โปรโมชั่นดูแลผู้สูงอายุและฟื้นฟูผู้ป่วย

สำหรับโรคหลอดเลือดสมองหรือหลังผ่าตัด มีทั้งที่ศูนย์และทำที่บ้าน

อ่านต่อ

โปรโมชัน เวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด

เวชศาสตร์ฟื้นฟู กายภาพบำบัด และกิจกรรมบำบัดครบวงจร

อ่านต่อ

โปรโมชัน คลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย

คืนความอ่อนเยาว์ ดูแลผิวพรรณ พร้อมดริปวิตามินเสริมสมดุล

อ่านต่อ

โปรโมชั่น คลินิก เวชศาตร์ฟื้นฟู กายภาพบำบัด อื่นๆ

KIN Rehab