"ฮีทสโตรก" หรือ "โรคลมแดด" เปิดสาเหตุทำไมโรคนี้ถึงทำให้เสียชีวิต! เตือนประชาชนให้ระวังเกิดได้ทุกเพศทุกวัย

"ฮีทสโตรก" หรือ "โรคลมแดด" เปิดสาเหตุทำไมโรคนี้ถึงทำให้เสียชีวิต

   กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยา เตือนประชาชนให้ระวังโรคลมแดดหรือฮีทสโตรก เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดของประเทศไทยในช่วงนี้ ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ โรคนี้เกิดได้ทุกเพศทุกวัย และอันตรายถึงชีวิต

โรคลมแดด หรือ "ฮีทสโตรก" (Heat Stroke)  

  โรคลมแดด หรือ "ฮีทสโตรก" (Heat Stroke)   เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัวหรือควบคุมระดับความร้อนภายในร่างกายได้ ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้นจากการเผชิญกับสภาพอากาศที่มีความร้อนสูง เช่น การออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมท่ามกลางอากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน พบว่ามีอุบัติการณ์เพิ่มมากขึ้นในฤดูร้อน 

อาการโรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก

  อาการจะเริ่มจากอุณหภูมิร่างกายค่อยๆ สูงขึ้น เมื่อเกิน 40 องศาเซลเซียส ร่างกายจะไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้รู้สึกผิดปกติ ปวดศีรษะ หน้ามืด กระสับกระส่าย ซึม สับสน ชัก ไม่รู้สึกตัว ร่วมกับมีอาการคลื่นไส้อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว หายใจหอบ ตัวแดง ถ้าปล่อยทิ้งไว้ให้มีอาการอาจส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อระบบสมอง หัวใจ ไต และกล้ามเนื้อ หากไม่ได้รับการรักษาอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนและทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ เมื่อพบผู้ที่มีอาการจากโรคลมแดด ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดโดยเร็ว

 

ใครเสี่ยงมีอาการโรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก

  โรคลมแดดสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน กลุ่มเสี่ยงของโรคลมแดดได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ ผู้ที่ออกกำลังกายหรือใช้กำลังมากเป็นเวลานาน รวมถึงประชาชนทั่วไปและผู้ป่วยระยะพักฟื้น 

การป้องกันโรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก

  สำหรับการป้องกัน สามารถทำได้โดยหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมในสภาพอากาศที่ร้อนจัดหรือกลางแจ้งเป็นเวลานานๆ หากสามารถเลี่ยงได้ ควรเลือกเวลา ที่ต้องการทำกิจกรรม เช่น ช่วงเช้ามืด หรือระหว่างพระอาทิตย์ตกดิน ผู้ที่ชอบออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิร้อนจัด ควรดื่มน้ำให้มากเพียงพอ 

ความเสี่ยงของการเป็นโรคลมแดด

  หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดภาวะร่างกายขาดน้ำ เช่น เครื่องดื่มที่ผสมคาเฟอีน กาแฟ เหล้า เบียร์ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้จะทำให้เสียน้ำทางปัสสาวะในปริมาณสูง หากไม่สามารถชดเชยน้ำได้มากพอ จะเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคลมแดดได้ หากจำเป็นต้องออกไปกลางแจ้งควรปกป้องตนเองจากแสงแดด โดยอุปกรณ์ป้องกันแสงแดด เช่น สวมใส่เสื้อผ้าที่มีคุณสมบัติระบายอากาศได้ดี หมวก ร่ม ถือเป็นหนึ่งอุปกรณ์ที่ควรพกติดตัวเมื่อต้องเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด 

นอกจากนี้ การอยู่ในรถที่ติดเครื่องยนต์กลางแจ้ง ซึ่งมีอันตรายมาก นอกจากต้องพบกับอากาศร้อนแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงของการได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ซึ่งเป็นก๊าซพิษ ที่มีผลต่อระบบประสาทจึงควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน 

อย่างไรก็ตาม โรคลมแดดขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ ซึ่งผู้ที่เกิดอาการต้องได้รับความช่วยเหลือในทันที ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อสมองและอวัยวะ ที่สำคัญในร่างกาย

 

การปฐมพยาบาลเบื้องต้น

1. นำผู้ป่วยเข้าร่ม นอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง ถอดเสื้อผ้าชั้นนอกออก
2. ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบเย็นตามคอ หลัง รักแร้ ขาหนีบ ข้อพับ และนำพัดลมเป่า ระบายความร้อน 
3. แจ้งสายด่วน 1669 หรือรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที
วิธีการป้องกัน
1. ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
2. ใส่เสื้อผ้าผ้าสีอ่อน ไม่หนา ระบายความร้อนได้ดี
3. หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดเป็นเวลา 
4. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกฮอล์
5. หากทำงานหรือเล่นกีฬา ไม่ควรหักโหม
6. ใช้ครีมกันแดด SPF 15 ขึ้นไป
7. ควรดูแลเด็กเล็กและผู้สูงอายุเป็นพิเศษ

สอบถามข้อมูลการฟื้นฟู
และนัดดูสถานที่

 


สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่ม นัดหมายเข้ามาดูสถานที่ ติดต่อ

KIN (คิน) - Rehabilitation & Homecare
     
 
 โทร :  02-0964996 , 091-803-3071 , 095-884-2233
 LINE สอบถามรายละเอียด @kinrehab (มี @ ข้างหน้า) หรือ Click : http://bit.ly/2M5f3Id
 Youtube Channel : https://cutt.ly/TyTh3bd
 แผนที่ไป KIN : http://bit.ly/2VvPDq6

ข่าวสารบทความ อื่นๆ

KIN Rehab