เปลี่ยนพฤติกรรมการนั่งทำงาน ลดความเสี่ยง Office Syndrome
ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)
เป็นอาการปวดกล้ามเนื้อ เกิดจากการใช้มัดกล้ามมัดเดิมซ้ำๆ นานๆ ซึ่งจะพบส่วนใหญ่ได้ในพนักงานออฟฟิศ คนออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งนักกีฬา แต่ในสถานการณ์ในปัจจุบันนักเรียนและนักศึกษา คุณครู มีการเรียนการสอนผ่าน Online ทำให้มีการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์หรือหน้าจอโทรศัพท์เป็นเวลานาน ทำให้เกิดอาการปวดหลัง ปวดคอ บ่า ไหล่ และมีอาการชาร่วมด้วย
อาการออฟฟิศซินโดรมสามารถเป็นได้ง่ายและสามารถป้องกันได้ง่ายเช่นกัน เพียงแค่ปรับเปลี่ยนวิธีการนั่งที่ถูกต้องและการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการทำงาน
เป็นอาการปวดกล้ามเนื้อ เกิดจากการใช้มัดกล้ามมัดเดิมซ้ำๆ นานๆ ซึ่งจะพบส่วนใหญ่ได้ในพนักงานออฟฟิศ คนออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งนักกีฬา แต่ในสถานการณ์ในปัจจุบันนักเรียนและนักศึกษา คุณครู มีการเรียนการสอนผ่าน Online ทำให้มีการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์หรือหน้าจอโทรศัพท์เป็นเวลานาน ทำให้เกิดอาการปวดหลัง ปวดคอ บ่า ไหล่ และมีอาการชาร่วมด้วย
อาการออฟฟิศซินโดรมสามารถเป็นได้ง่ายและสามารถป้องกันได้ง่ายเช่นกัน เพียงแค่ปรับเปลี่ยนวิธีการนั่งที่ถูกต้องและการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการทำงาน
ท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง เป็นอย่างไร
การที่เรานั่งผิดท่า เป็นระยะเวลายาวนานในแต่ละวัน อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เรา มีอาการปวดหลัง เกิดอาการเมื่อยล้าได้โดยที่ไม่รู้ตัว เช่น ท่านั่งผิดๆ ดังต่อไปนี้
- ท่านั่ง เราเอนพิงพนักโดยเว้นช่องว่างระหว่างสะโพกกับพนักพิง ทำให้ส่งผลต่อกระดูกสันหลังช่วงล่างงอเป็นทรงโค้ง
- ท่านั่งที่มีลักษณะกายภาพ แบบ หลังค่อม นั่งห่อไหล่ ส่งผลให้เมื่อย เกร็ง บริเวณ กล้ามเนื้อต้นคอ สะบัก อยู่ตลอดเวลา
-การใช้งานคอมพิวเตอร์ ด้วยตำแหน่งการจับเม้าที่ท่าทางผิดธรรมชาติ เป็นระยะเวลาต่อเนื่องนานๆ หรือการนั่งเล่นมือถือด้วยท่าเดิม ในระยะยาว อาจส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อกดทับเส้นประสาท เส้นเอ็นอักเสบ เกิดพังผืดยึด นิ้วล๊อกหรือข้อมือล๊อกได้
การที่เรานั่งผิดท่า เป็นระยะเวลายาวนานในแต่ละวัน อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เรา มีอาการปวดหลัง เกิดอาการเมื่อยล้าได้โดยที่ไม่รู้ตัว เช่น ท่านั่งผิดๆ ดังต่อไปนี้
- ท่านั่ง เราเอนพิงพนักโดยเว้นช่องว่างระหว่างสะโพกกับพนักพิง ทำให้ส่งผลต่อกระดูกสันหลังช่วงล่างงอเป็นทรงโค้ง
- ท่านั่งที่มีลักษณะกายภาพ แบบ หลังค่อม นั่งห่อไหล่ ส่งผลให้เมื่อย เกร็ง บริเวณ กล้ามเนื้อต้นคอ สะบัก อยู่ตลอดเวลา
-การใช้งานคอมพิวเตอร์ ด้วยตำแหน่งการจับเม้าที่ท่าทางผิดธรรมชาติ เป็นระยะเวลาต่อเนื่องนานๆ หรือการนั่งเล่นมือถือด้วยท่าเดิม ในระยะยาว อาจส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อกดทับเส้นประสาท เส้นเอ็นอักเสบ เกิดพังผืดยึด นิ้วล๊อกหรือข้อมือล๊อกได้
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงาน
1.นั่งให้เต็มก้นและนั่งหลังตรง โดยให้หลังตรงชิดขอบด้านในของเก้าอี้ การนั่งพิงพนักจะช่วยเรื่องการจัดระเบียบหลัง ช่วยให้หลังนั้นตรงโดยอัตโนมัติ ไปตามแนวของพนักพิง แต่หากเก้าอี้ไม่มีพนักพิงเราต้องพยายามฝึกให้นั่งหลังตรงอยู่เสมอๆ
2.ตั้งคอตรงและยืดไหล่
3.ในกรณีที่บริเวณนั่งของเก้าอี้ลึกเกิน ให้หาหมอนหนุน เพื่อเป็นการช่วยให้หลังตรงขณะนั่ง
4.เลือกขนาดของเก้าอี้และโต๊ะ ให้เกิดความเหมาะสม เข้ากับสรีระ โดยสังเกตุว่า สะโพกและขาของเราต้องตั้งฉากกัน
5.เก้าอี้ที่ดีควรปรับระดับความสูง-ต่ำได้ แต่หากปรับไม่ได้ ก็อาจจะต้องหาเก้าอี้ม้านั่งตัวเล็กวางไว้ด้านล่างเพื่อวางเท้า
6.ระดับสายตาของเราต้องอยู่ในระดับที่พอดีกับจอภาพ ของอุปกรณ์นั้นๆ
7.ให้ระยะห่างระหว่างตาของเรากับจอภาพ ห่างประมาณ 12-18 นิ้ว
8.ระดับข้อศอกและข้อมือ ควรเป็นระนาบเดียวกันกับแป้นคีย์บอร์ด
9.ควรมีบริเวณรองแขนขณะใช้เมาส์ เพื่อพักข้อศอกและพื้นที่ในการเคลื่อนที่มีมากพอไม่ถูกจำกัด
11.ควรลุกขึ้นมายืดกล้ามเนื้อทุก 1 ชั่วโมง เพื้อพักสายตาและเพื่อพักกล้ามเนื้อ
1.นั่งให้เต็มก้นและนั่งหลังตรง โดยให้หลังตรงชิดขอบด้านในของเก้าอี้ การนั่งพิงพนักจะช่วยเรื่องการจัดระเบียบหลัง ช่วยให้หลังนั้นตรงโดยอัตโนมัติ ไปตามแนวของพนักพิง แต่หากเก้าอี้ไม่มีพนักพิงเราต้องพยายามฝึกให้นั่งหลังตรงอยู่เสมอๆ
2.ตั้งคอตรงและยืดไหล่
3.ในกรณีที่บริเวณนั่งของเก้าอี้ลึกเกิน ให้หาหมอนหนุน เพื่อเป็นการช่วยให้หลังตรงขณะนั่ง
4.เลือกขนาดของเก้าอี้และโต๊ะ ให้เกิดความเหมาะสม เข้ากับสรีระ โดยสังเกตุว่า สะโพกและขาของเราต้องตั้งฉากกัน
5.เก้าอี้ที่ดีควรปรับระดับความสูง-ต่ำได้ แต่หากปรับไม่ได้ ก็อาจจะต้องหาเก้าอี้ม้านั่งตัวเล็กวางไว้ด้านล่างเพื่อวางเท้า
6.ระดับสายตาของเราต้องอยู่ในระดับที่พอดีกับจอภาพ ของอุปกรณ์นั้นๆ
7.ให้ระยะห่างระหว่างตาของเรากับจอภาพ ห่างประมาณ 12-18 นิ้ว
8.ระดับข้อศอกและข้อมือ ควรเป็นระนาบเดียวกันกับแป้นคีย์บอร์ด
9.ควรมีบริเวณรองแขนขณะใช้เมาส์ เพื่อพักข้อศอกและพื้นที่ในการเคลื่อนที่มีมากพอไม่ถูกจำกัด
11.ควรลุกขึ้นมายืดกล้ามเนื้อทุก 1 ชั่วโมง เพื้อพักสายตาและเพื่อพักกล้ามเนื้อ
ขอบคุณข้อมูล : https://www.harachairthailand.com/content/9048/
ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูคิน โรงพยาบาลประสานมิตร
เปิดทำการ วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.00 - 16.30 น.
(หยุดวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูคิน
สาขา รพ.ประสานมิตร ถนนพหลโยธิน (รับเฉพาะผู้ป่วยนอก) โทร : 02-096-4996 กด 3 / 080-553-1991 / 081-632-8188
LINE สอบถามรายละเอียด @KinPrasanmit (มี @ ข้างหน้า)
หรือ Click : https://lin.ee/UPfzPk7
KIN Origin Healthcare
สาขา Sukhumvit 107
FaceBook : https://www.facebook.com/KinOriginSukhumvit107/
หรือ Clink line : https://lin.ee/AB1DkvQ
หรือ Clink line : https://lin.ee/AB1DkvQ
สาขา Ramintra
FaceBook : https://www.facebook.com/KinOriginRamintra/
Tags