5 ท่ายืดคลายปวดหลัง ทำง่ายที่บ้าน ช่วยให้สบายตัวหลัง Work From Home


ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การทำงานจากบ้าน หรือ Work From Home (WFH) ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อีกต่อไป แต่กลายเป็นวิถีชีวิตใหม่ของคนทำงานทั่วโลก แม้ว่า WFH จะมีข้อดีหลายประการ เช่น ประหยัดเวลาเดินทาง มีความยืดหยุ่นในการจัดการเวลา แต่ก็แฝงไปด้วยความท้าทายที่หลายคนอาจมองข้าม นั่นคือ ปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "อาการปวดหลัง"


หลายคนอาจคิดว่าการนั่งทำงานที่บ้านจะสบายกว่าที่ออฟฟิศ แต่ความเป็นจริงกลับตรงกันข้าม การนั่งทำงานเป็นเวลานานบนโซฟานุ่มๆ หรือเก้าอี้ทั่วไปที่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการนั่งทำงาน อาจทำให้เกิดปัญหาปวดหลังได้ง่ายกว่าที่คิด นอกจากนี้ การขาดการเคลื่อนไหวร่างกาย เนื่องจากไม่ต้องเดินทางไปทำงาน หรือเดินไปประชุมในห้องต่างๆ ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะอาการปวดหลังส่วนล่าง


บทความนี้จะแนะนำ 5 ท่ายืดง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้เองที่บ้าน เพื่อบรรเทาอาการปวดหลังส่วนล่าง โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษใดๆ แค่มีพื้นที่ว่างนิดหน่อยในบ้านก็เริ่มได้แล้ว! ท่ายืดเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อ เพิ่มความยืดหยุ่น และลดแรงกดทับบนกระดูกสันหลัง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการปวดหลังในคนทำงานออฟฟิศ และ WFH


นอกจากนี้ เรายังจะแนะนำวิธีจัดสภาพแวดล้อมการทำงานที่บ้านให้เป็นมิตรกับหลังของคุณ รวมถึงเคล็ดลับการดูแลสุขภาพหลังในระยะยาว เพื่อให้คุณสามารถทำงานจากบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องทนทุกข์กับอาการปวดหลังอีกต่อไป

1. ท่าแมวขี้เกียจ-วัวตื่นนอน (Cat-Cow)



แทนที่จะเรียกว่า Cat-Cow ลองนึกภาพแมวที่กำลังยืดตัวหลังตื่นนอน และวัวที่กำลังลุกขึ้นยามเช้า ท่านี้จะช่วยให้กระดูกสันหลังของคุณได้เคลื่อนไหวอย่างอิสระ

วิธีทำ

  1. คุกเข่าบนพื้น วางมือให้ตรงกับไหล่
  2. หายใจเข้า แอ่นหลังขึ้นเหมือนแมวขี้เกียจ
  3. หายใจออก ยืดหลังลงเหมือนวัวตื่นนอน
  4. ทำสลับกัน 10-15 ครั้ง ช้าๆ ตามจังหวะหายใจ
2. ท่าเด็กน้อยนอนหลับ (Child’s Pose)




ท่านี้จะช่วยให้คุณรู้สึกเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กน้อยที่นอนหลับอย่างสบาย ไร้กังวล

วิธีทำ

  1. นั่งบนส้นเท้า แยกเข่าออกเล็กน้อย
  2. ค่อยๆ ก้มตัวไปข้างหน้า ยืดแขนออกไป
  3. วางหน้าผากลงบนพื้น ปล่อยให้หลังและสะโพกยืดออก
  4. หายใจลึกๆ ค้างท่านี้ไว้ 30 วินาที ถึง 1 นาที
3. ท่ากอดเข่าเข้าอก (Knee-to-Chest Stretch)




เหมือนกับการกอดตัวเองให้กำลังใจ ท่านี้จะช่วยนวดหลังส่วนล่างของคุณอย่างนุ่มนวล

วิธีทำ

  1. นอนหงายบนพื้น
  2. ยกขาข้างหนึ่งขึ้น ใช้มือกอดเข่าเข้าหาอก
  3. ค้างไว้ 20-30 วินาที แล้วเปลี่ยนข้าง
  4. ทำซ้ำข้างละ 5-10 ครั้ง
4. ท่าก้มตัวแตะเท้า (Paschimottanasana)



ท่านี้เหมือนกับการพยายามเอื้อมมือไปหยิบของที่อยู่ไกลสุดปลายเท้า ช่วยยืดหลังและขาไปพร้อมกัน

วิธีทำ

  1. นั่งเหยียดขาตรงไปข้างหน้า
  2. ค่อยๆ ก้มตัวไปข้างหน้า พยายามเอื้อมมือไปแตะปลายเท้า
  3. ถ้าแตะไม่ถึง ให้จับที่ขาหรือข้อเท้าแทน
  4. ค้างไว้ 30 วินาที ถึง 1 นาที ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง
5. ท่ายืดสะโพกแก้ปวดเส้นประสาท (Figure-4 Stretch)




ท่านี้จะช่วยคลายกล้ามเนื้อสะโพกที่บางครั้งอาจกดทับเส้นประสาทและทำให้ปวดหลัง

วิธีทำ

  1. นอนหงาย งอเข่าข้างหนึ่ง
  2. วางข้อเท้าอีกข้างบนเข่าที่งอไว้
  3. ใช้มือจับใต้ต้นขาข้างที่งอ ดึงเข้าหาอก
  4. ค้างไว้ 20-30 วินาที สลับข้าง ทำซ้ำ 5-10 ครั้ง

เคล็ดลับเพิ่มเติม

- ทำช้าๆ อย่าฝืน ให้รู้สึกยืดแต่ไม่เจ็บ

- หายใจเข้าออกลึกๆ ช่วยให้ผ่อนคลายมากขึ้น

- ทำเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อยวันละ 10-15 นาที


การยืดเหยียดเหล่านี้ไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ แค่มีพื้นที่ว่างนิดหน่อยในบ้านก็เริ่มได้แล้ว ลองทำเป็นกิจวัตรประจำวัน เช่น ตอนเช้าหลังตื่นนอน หรือตอนเย็นหลังเลิกงาน คุณจะรู้สึกว่าร่างกายยืดหยุ่นขึ้น และอาการปวดหลังก็จะค่อยๆ ดีขึ้น


สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่าการดูแลสุขภาพไม่ได้จำกัดแค่การออกกำลังกาย การพักผ่อนที่เพียงพอ การทานอาหารที่มีประโยชน์ และการจัดท่าทางการนั่งทำงานที่ถูกต้องก็สำคัญไม่แพ้กัน หากคุณยังรู้สึกปวดหลังมากหลังจากทำท่ายืดเหล่านี้แล้ว ควรปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับคุณโดยเฉพาะนะคะ


วิธีจัดสภาพแวดล้อมการทำงานที่บ้านให้เป็นมิตรกับหลัง

นอกจากการยืดเหยียดแล้ว การจัดพื้นที่ทำงานให้เหมาะสมก็สำคัญไม่แพ้กัน ลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้เพื่อลดความเสี่ยงของอาการปวดหลัง:



  1. จัดโต๊ะทำงานให้เหมาะสม: วางจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตา ใช้แท่นวางจอถ้าจำเป็น
  2. เลือกเก้าอี้ที่รองรับหลังดี: ใช้เก้าอี้ที่มีพนักพิงรองรับหลังส่วนล่าง หรือใช้หมอนรองหลังเพิ่มเติม
  3. ยืนทำงานบ้าง: ถ้าเป็นไปได้ ลองสลับระหว่างนั่งและยืนทำงาน อาจใช้กล่องหรือชั้นวางของมาทำเป็นโต๊ะยืนชั่วคราว
  4. พักสายตา และร่างกายบ่อยๆ: ทุกๆ 30 นาที ลุกขึ้นเดินไปมาสักพัก หรือทำท่ายืดง่ายๆ 1-2 ท่า
  5. ใช้แป้นพิมพ์และเมาส์แยก: ถ้าใช้โน้ตบุ๊ก ควรใช้แป้นพิมพ์และเมาส์แยกเพื่อให้วางแขนได้สบายขึ้น

กิจกรรมเสริมเพื่อสุขภาพหลังที่ดี

นอกจากการยืดเหยียดแล้ว ลองเพิ่มกิจกรรมเหล่านี้เข้าไปในชีวิตประจำวัน:



  1. เดินเล่นรอบบ้าน: แม้แต่การเดินสั้นๆ 10-15 นาทีก็ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและลดอาการปวดหลังได้
  2. ฝึกโยคะเบื้องต้น: มีท่าโยคะหลายท่าที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลัง ลองหาคลิปสอนโยคะออนไลน์สำหรับผู้เริ่มต้น
  3. ว่ายน้ำ: ถ้ามีสระว่ายน้ำใกล้บ้าน การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่ดีมากสำหรับหลัง
  4. ฝึกการทรงตัว: ยืนขาเดียว หรือทำท่าต้นไม้ง่ายๆ ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อแกนกลางและลดอาการปวดหลังได้

สัญญาณที่บอกว่าควรพบแพทย์



แม้ว่าอาการปวดหลังส่วนใหญ่จะดีขึ้นได้เองหรือด้วยการดูแลที่บ้าน แต่หากคุณพบอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

- ปวดรุนแรงและไม่ดีขึ้นแม้พักผ่อน

- ปวดร้าวลงขาหรือเท้า โดยเฉพาะถ้ามีอาการชาร่วมด้วย

- มีไข้ร่วมกับอาการปวดหลัง

- มีอาการอ่อนแรงที่ขาหรือเท้า

- มีปัญหาการควบคุมการขับถ่าย


การดูแลสุขภาพหลังไม่ใช่เรื่องยาก แค่เริ่มจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการยืดเหยียด การจัดท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง หรือการออกกำลังกายเบาๆ เมื่อทำเป็นประจำ คุณจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน


จำไว้ว่า สุขภาพที่ดีเริ่มต้นที่ตัวเรา แม้ว่าการทำงานจากบ้านจะท้าทาย แต่ก็เป็นโอกาสดีที่เราจะได้ใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเองมากขึ้น เริ่มต้นวันนี้ ด้วยการทำท่ายืดง่ายๆ สัก 2-3 ท่า แล้วคุณจะรู้สึกถึงความแตกต่าง พร้อมที่จะก้าวสู่การมีสุขภาพหลังที่แข็งแรงในระยะยาว


ลองเริ่มทำวันนี้ และแบ่งปันประสบการณ์ของคุณกับเพื่อนร่วมงานหรือครอบครัว เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนรอบข้างหันมาใส่ใจสุขภาพหลังกันมากขึ้น เพียงเท่านี้ คุณก็จะสามารถทำงานจากบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีสุขภาพที่ดีไปพร้อมๆ กันแล้วล่ะ!



สอบถามข้อมูล | นัดชมสถานที่

สาขาลาดพร้าว 71

สาขาสุขุมวิท 107

สาขาพัทยา

สาขาราชพฤกษ์

แนะนำท่าออกกำลังกาย กายภาพบำบัด อื่นๆ

KIN Rehab